ฟิลิปปินส์เตรียมชะลอการเพิ่มเงินงบประมาณการใช้จ่ายประจำปี 2553 โดยมีเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลการค้า ขณะที่มาตรการจัดเก็บภาษีรอบใหม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีรายได้ของรัฐบาล
ลอร่า ปาสกัว เลขาธิการสำนักงานงบประมาณกล่าวว่า รัฐบาลอาจเสนอเงินงบประมาณในปี 2553 ที่ 1.5 ล้านล้านเปโซ (3.12 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% และเมื่อเทียบกับยอดใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ 1.489 ล้านล้านเปโซในปีนี้ที่เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน
"ถึงเวลาแล้วที่ฟิลิปปินส์จะกลับมาใช้เงินงบประมาณอย่างระมัดระวัง" ปาสกัวกล่าว "ความรุนแรงของวิกฤตการณ์ต่างๆเริ่มแผ่วลง ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายเงินมากอีกต่อไปแล้ว"บลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย่ได้ยกเลิกแผนการปรับสมดุลในบัญชีงบประมาณเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยจนทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าที่ลดตัวเลขขาดดุลบัญชีลงให้เหลือที่ 2.084 แสนล้านเปโซในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว จากที่ประมาณการไว้ในระดับ 2.50 แสนล้านเปโซในปีนี้ ซึ่งจะเป็นเงินจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2528
ด้านลุซ โลเรนโซ นักวิเคราะห์จาก ATR-Kim Eng Securities Inc. ในฟิลิปปินส์กล่าวว่า "เป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะกลับไปใช้นโยบายการเงินที่ช่วยฟื้นความมั่นใจของนักลงทุนกลับคืนมา และจำเป็นต้องป้องกันมิให้อันดับความน่าเชื่อถือในประเทศลดลง"
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากภาวะตกต่ำครั้งหนักสุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่อาจช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ 2.6-3.6% ในปีหน้า จากระดับที่ขยายตัวเล็กน้อย 0.8% ในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้เร็วยิ่งขึ้นในปี 2554-2555