ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างที่ภาคเอกชนกำลังทยอยเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าแตะ 1.0847 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0783 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์
เงินยูโรอ่อนค่าแตะ 1.3949 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.4024 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่เงินปอนด์ก็อ่อนค่าแตะ 1.6207 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6338 ดอลลาร์/ปอนด์
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าแตะ 0.7791 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 0.7826 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ก็อ่อนค่าแตะ 0.6272 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.6295 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
แม้จะแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินอื่น แต่เงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าเมื่อเทียบเงินเยนแตะระดับ 92.400 เยน/ดอลลาร์ จาก 92.930 เยน/ดอลลาร์
นักลงทุนค่อนข้างวิตกกับผลประกอบการไตรมาส 2 ของภาคเอกชนซึ่งกำลังจะได้รับการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ โดยเชฟรอน คอร์ป บริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เผยว่าบริษัทมีกำไรจากต่างประเทศลดลง ส่วนในสัปดาห์หน้าจะมีการเผยผลประกอบการของบริษัทใหญ่อย่าง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, กูเกิล อิงค์ และ เจเนอรัล อิเล็กทริค โค ที่คาดว่าจะไม่สู้ดีนักเช่นกัน
นอกจากนั้นข้อมูลเศรษฐกิจในแง่ลบที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นอัตราว่างงานที่พุ่งสูง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินดอลลาร์และเงินเยนซึ่งมีความปลอดภัยสูง