สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อเลี่ยงเงินเฟ้อ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงขึ้นเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 939.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 16.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 924.50-942.30 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 35.30 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,157.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 22.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 248.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.55 ดอลลาร์
ทอม พอว์ลิคกี นักวิเคราะห์จากบริษัท MF Global Research ในเมืองชิคาโก กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนจำนวนมากเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 1.8% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีพ.ศ.2550 ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาด 0.5% นอกจากนี้ ดัชนี CPI เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะหืคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2% ใน เดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%
ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นในในทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1-1.5% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 1.3-2%