อาร์เซลอร์มิตตาล (ArcelorMittal) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลกรายงานตัวเลขขาดทุนต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 พร้อมเปิดเผยแผนเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานบางแห่งเพื่อรองรับอุปสงค์ที่กำลังฟื้นตัวขึ้น
อาร์เซลอร์มิตตาลเปิดเผยว่า บริษัทมีตัวเลขขาดทุนสุทธิช่วงไตรมาส 2 ที่ 792 ล้านดอลลาร์ หรือ 57 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับรายได้สุทธิที่ 5.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.19 ดอลลาร์/หุ้นในปีก่อนหน้านี้ ส่วนยอดขายตกลง 60% มาอยู่ที่ 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะขาดทุนสุทธิเพียง 336 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอของอาร์เซลอร์มิตตาลกล่าวว่า "ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้เราเริ่มเห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีในเบื้องต้น ซึ่งทำให้เรามีแผนเพิ่มการผลิตที่โรงงานบางแห่ง และช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะได้เห็นถึงการขยายตัวที่ค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" บลูมเบิร์กรายงานการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า อาร์เซลอร์มิตตาลจะกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากที่ความต้องการเหล็กและราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น โดยต้นทุนเหล็กรีดร้อนที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและรถยนต์เพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งนับเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี
ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยถึงการได้ผลตอบรับที่ดีหลังจากที่ได้เรียกร้องให้ผู้ปล่อยกู้ปรับเงื่อนไขการให้กู้เงิน 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นมา บริษัทได้ใช้จ่ายเงิน 3.8 พันล้านดอลลาร์ในการควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มบทบาทการเป็นผู้จัดหาสินแร่เหล็กและถ่านหินในตลาดมากขึ้น
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจเหล็กโลกเปิดเผยว่า อาร์เซลอร์มิตตาล ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างอาร์เซลอร์ เอสเอ กับมิตตาล สตีล โคในปี 2549 นั้นมียอดการผลิตโลหะ 101.6 ล้านตันในปี 2551 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 7.7% ของยอดการผลิตโลหะทั่วโลกที่ 1.32 พันล้านตัน