สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐประจำเดือนก.ย.ร่วงลงแตะ 53.1 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 54.5 จุด และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ 57 จุด เนื่องจากผู้บริโภคชาวสหรัฐวิตกกังวลเรื่องการจ้างงานและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต
พอล เดลส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Economics Ltd กล่าวกับเอพีว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายในเดือนก.ย.ทำให้เกิดความกังวลว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะลดลงและจะฉุดยอดค้าปลีกในช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยปลายปีในสหรัฐหดตัวลงด้วย
"การร่วงลงของรายได้และตัวเลขจ้างงานเป็นสาเหตุสำคัญที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจะอ่อนตัวลงอีกในเดือนหน้า ปัจจัยที่ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จับตาดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็เพราะตัวเลขดังกล่าวจะเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายในด้านการซื้อสินค้าและการบริการของผู้บริโภค รวมถึงการซื้อที่อยู่อาศัยและการใช้จ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ" เดลส์กล่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเกินคาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 47.16 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 9,742.20 จุดเมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย.จะลดลง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากดิ่งลง 216,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 9.8% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 9.7% ในเดือนส.ค.