นายร็อบสัน วอลตัน ประธานบริษัท วอลมาร์ท สโตเรส ยักษ์ใหญ่ห้างค้าปลีกของสหรัฐ กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมซีอีโอภาคธุรกิจโลกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า แม้เศรษฐกิจจีนและอินเดียมีแนวโน้มการขยายตัวที่แข็งแกร่งก็ตาม
"แม้เอเชียมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เศรษฐกิจโลกยังต้องเผชิญความท้าทายอันใหญ่หลวง สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ในส่วนของวอลมาร์ทนั้น แม้ยอดขายของบริษัทได้รับผลพวงจากการที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าลดราคา รวมถึงยาและอาหาร แต่เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าก็จะส่งผลกระทบต่อวอลมาร์ทด้วย" วอลตันกล่าววอลตันยังกล่าวด้วยว่า "จีนและอินเดียเป็นประเทศที่สร้างโอกาสให้กับบริษัทค้าปลีก รวมถึงวอลมาร์ท ซึ่งเป็นเสมือนโอกาสที่เปิดกว้างท่ามกลางวิกฤตการณ์ ดังนั้น ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราก็จะคว้าโอกาสนั้นไว้ อุตสาหกรรมค้าปลีกจึงต้องทำงานหนักและแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งในเรื่องการลดต้นทุนและพัฒนาศักยาภาพของธุรกิจ"
เอพีรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของประธานวอลมาร์ทสอดคล้องกับความคิดเห็นของนายเจฟฟรีย์ อิมเมลท์ ซีอีโอบริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ที่เตือนว่าอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นและการที่สถาบันการเงินชะลอการปล่อยกู้ให้ภับภาคเอกชน จะส่งผลขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ วอลมาร์ทมีสาขากว่า 250 แห่งในจีน แต่การลงทุนในประเทศอินเดียอยู่ในรูปของการร่วมทุนกับบริษัทอื่นเท่านั้น ทำให้วอลมาร์ทเก็บเกี่ยวรายได้จากตลาดค้าปลีกในอินเดียได้เพียง 4.30 แสนล้านดอลลาร์ โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวคือ ภารตี วอลมาร์ท ไพรเวท