สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 90 เซนต์ ปิดที่ 1,051.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 17.42 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วง 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,348.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ทะยาน 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 330.65 ดอลลาร์/ออนซ์
"โดยปกติแล้วราคาทองคำจะผันผวนโดยตรงกับค่าเงินดอลลาร์ ตอนนี้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มดิ่งลงในระยะยาว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น" ทอม ฮาร์แมนน์ นักวิเคราะห์จากแคลิฟอร์เนีย กล่าว
ขณะเดียวกัน ดอยช์แบงก์ เอจี กล่าวว่า นักลงทุนกำลังวิตกเกี่ยวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงมากเกินคาดในเดือนตุลาคม แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยากลำบาก ดังนั้นนักลงทุนจึงหันมาทุ่มลงทุนในทองคำ เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด
ด้านสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พีแอลซี ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำขึ้น 4.8% แตะ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ในไตรมาสปัจจุบัน พร้อมคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 1,140 ดอลลาร์/ออนซ์ ในปีหน้า หรือมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึง 8% เนื่องจากมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามามาก