ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หนุนทองคำปิดพุ่ง $4.80

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 22, 2009 07:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) ซึ่งเป็นสถิติที่ปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับยูโรช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้ทุ่มซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบและทองคำ โดยดอลลาร์ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1.50 ยูโร/ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าดอลลาร์

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,063.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,048.10-1,065.70 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนปิดที่ 17.825 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 26.70 เซนต์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,374.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 341.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.85 ดอลลาร์

แฟรงค์ แมคจี หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท อินเตอร์เกรทเต็ด โบรกเกอเรจ เซอร์วิส ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "ตลาดทองคำถูกขับเคลื่อนด้วยทิศทางของดอลลาร์อย่างแท้จริง ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะยิ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์และฉุดค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนตัวลงอีก สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้ราคาทองคำแพงขึ้น"

แมคจียังกล่าวด้วยว่า "สัญญาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีกเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำที่ 0-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไว้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะยิ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง"

คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) เปิดเผยว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์และนักเก็งกำไรรายใหญ่เข้าซื้อทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าสัญญาทองคำอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ