สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำและน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่ายอดนำเข้าทองคำของอินเดียมีแนวโน้มลดลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1058.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.9 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1059.0-1054.4 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 28 เซนต์ หรือ 1.6% แตะที่ 17.545 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนม.ค.ดิ่งลง 4.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% แตะที่ 1,369.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 0.5% แตะที่ 339.75 ดอลลาร์/ออนซ์
เดนนิส การ์ทแมน บรรณาธิการนิตยสารการ์ทแมน เลทเตอร์ กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้ดีมานด์ทองคำลดน้อยลง โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (U.S. Dollar Index) ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ พุ่งขึ้น 0.7%
นอกจากนี้ สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากนายอันจานี ซินฮา ประธานสมาคมตลาดทองคำอินเดียเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าทองคำของอินเดียจะอยู่ที่ระดับ 50 ตันในไตรมาส 4 ปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยรายไตรมาสที่ 100-120 ตัน
ทั้งนี้ โดยปกติในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.มักเป็นช่วงที่ยอดขายอัญมณีในอินเดียพุ่งขึ้นสูงสุด เนื่องจากมีผู้ซื้ออัญมณีไปใช้ในเทศกาลแต่งงานและเทศกาล "ทิวาลี" ของศาสนาฮินดู แต่นายซินฮาคาดว่าดีมานด์ทองคำในอินเดียจะไม่เพิ่มขึ้นมากนักนอกเสียจากว่าราคาทองคำจะลดลงต่ำกว่าระดับ 950 ดอลลาร์/ออนซ์