ปิโตรไชน่า ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่สุดของจีน รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.08 หมื่นล้านหยวน (4.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 0.17 หยวนต่อหุ้น ร่วงลง 23.2% จากระดับ 4.01 หมื่นล้านหยวน หรือ 0.22 หยวนต่อหุ้นในปีก่อน ขณะที่รายได้รวมร่วงลง 12% แตะ 2.68 แสนล้านหยวน (3.93 หมื่นล้านดอลลาร์) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงและอุปสงค์พลังงานที่อ่อนแอท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ปิโตรไชน่าระบุว่า ธุรกิจการผลิตของบริษัทได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยราคาเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เทียบกับระดับ 97.24 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551
ปิโตรไชน่าผลิตน้ำมันดิบได้ในปริมาณ 631 ล้านบาร์เรลในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 3.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลผลิตก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นแตะ 1.5 ล้านล้านลูกบาศก์เมตรในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. เนื่องจากตลาดก๊าซธรรมชาติในประเทศขยายตัวในจังหวะที่เร็วขึ้น
ปิโตรไชน่า ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเอ็กซอน โมบิล คอร์ป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หุ้นของปิโตรไชน่าขยับขึ้นเล็กน้อยปิดที่ 13.39 หยวนในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 2 เดือนในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการ โดยหุ้นปิโตรไชน่าดิ่งลงถึง 5.1% แตะ 9.44 ดอลลาร์ฮ่องกง และเคลื่อนไหวที่ระดับ 9.47 ดอลลาร์ฮ่องกง ณ เวลา 10.42 น.ตามเวลาท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่า กำไรของปิโตรไชน่าอาจดีดตัวขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนเป็นแกนนำโลกให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย รวมไปถึงการที่ราคาและอุปสงค์น้ำมันเบนซินและดีเซลเริ่มปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ผ่อนคลายการควบคุมราคาเชื้อเพลิงและอาจปรับราคาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อปิโตรไชน่า เนื่องจากบริษัทเพิ่มการลงทุนในโรงกลั่น
"รัฐบาลจะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นในเร็วๆนี้" เกรซ หลิว นักวิเคราะห์จากกัวไถ่ จูหนาน ซีเคียวริตี้ส์ ในฮ่องกงกล่าว พร้อมกับคาดว่า ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 76 ดอลลาร์ในไตรมาส 4 นี้
ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ได้ออกมายืนยันการคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งถึง 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่งในประเทศจีน