นสพ.ไชน่า ยูท เดลี่ รายงานว่า จี เสี่ยวหนาน เจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะกรรมการบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์ แนะให้จีนเพิ่มปริมาณสำรองทองคำของประเทศเป็น 6,000 เมตริคตันภายใน 3-5 ปีข้างหน้า หรืออาจจะเพิ่มเป็น 10,000 เมตริคตันในช่วง 8-10 ปี เพื่อลดโอกาสที่จะขาดทุนอันเนื่องมาจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมาแล้วประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเงินยูโร และนับตั้งแต่ปี 2546 จีนได้เพิ่มสำรองทองคำมาแล้ว 76% แตะ 1,054 ตัน
นายจีกล่าวว่า การเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิลด์ อาจเป็นการเปิดโอกาสให้จีนได้นำสำรองเงินตราต่างประเทศไปลงทุนในตลาดโลหะและน้ำมัน
วานนี้ สมาคมทองคำของจีนคาดการณ์ว่า ความต้องการและผลผลิตทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองรายใหญ่สุดของโลก อาจพุ่งทำสถิติสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากการใช้ทองเพื่อทำเครื่องประดับเพิ่มสูงขึ้นมาก และผู้ประกอบการเหมืองขยายกำลังการผลิตหลังจากที่ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จาง หยางเถา รองเลขาธิการของสมาคม กล่าวในที่ประชุมสมาคมในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานว่า จีนอาจต้องการทองคำมากกว่า 450 เมตริกตันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 395.6 ตันในปี 2551 และผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นแตะ 310 ตัน จากระดับ 282 ตันในปีก่อน พร้อมเผยว่า การผลิตทองของจีนขยายตัว 9.5% ต่อปีในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
ทางด้านผู้จัดการฝ่ายวิจัยการลงทุนของสมาคมทองคำโลกมองว่า จีนมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคทองคำรายใหญ่สุดของโลกในปีนี้