ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐประจำเดือนพ.ย. ส่อเค้าพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 3.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. เนื่องจากยอดนำเข้าสินค้าพุ่งสูงกว่ายอดส่งออก
นักวิเคราะห์คาดว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในช่วงเวลาดังกล่าวที่พุ่งสูงขึ้น เพราะสหรัฐมียอดนำเข้าและส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่ง แต่การนำเข้าดูจะขยายตัวได้ดีกว่า ซึ่งก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยอัตราการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งจากผู้บริโภคและภาคเอกชนของสหรัฐบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าต่างประเทศจะยังขยายตัวสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ แต่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศช่วยหนุนให้ยอดขายสินค้าของสหรัฐในต่างประเทศปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะหนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจขยายตัวได้เป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ สำนักงานจัดการอุปทานของสหรัฐได้รายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.ที่ขยายตัวขึ้นเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปี สอดคล้องกับภาคการผลิตในยุโรปและจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่า ขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังขยายตัวและมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขึ้นจากระดับ 3.1% ซึ่งการดีดตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาได้กระตุ้นให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น
โดยราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมน้ำมันเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่ขยับขึ้น 2% ในเดือนก่อนหน้านี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งในเดือนนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าของสหรัฐปรับตัวขึ้นตามไปด้วย