คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังพิจารณาขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ และจะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลหากเศรษฐกิจยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าบีโอเจจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% ในการประชุมนโยบาย 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ และคาดว่าบีโอเจจะจับตาสถานการณ์เงินเยนที่แข็งค่าอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าบีโอเจอาจพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในที่ประชุม G20 ปีนี้ เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน และคาดว่าจะขยายวงเงินซื้อพันธบัตรเป็น 1.8 ล้านล้านเยน/เดือน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน อย่างไรก็ตาม การใช้เม็ดเงินจำนวนมากเช่นนี้อาจทำให้ญี่ปุ่นขาดดุลงบประมาณ
มาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจยืนยันว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืด และพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน
"บีโอเจตระหนักถึงความท้าทายอันใหญ่หลวงที่จะเอาชนะภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และการพยุงเศรษฐกิจให้สามารรถขยายตัวอย่างยั่งยืน รวมทั้งการหนุนราคาผู้บริโภคให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ บีโอเจยังมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน" ชิรากาว่ากล่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นร่วงลง 1.9 จุด จากเดือนพ.ย. แตะที่ 37.6 จุด ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานและอัตราค่าแรงที่หดตัวลง โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจมีจำนวนน้อยกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นลบ