ธนาคารโลกหวั่นรายงานข้อมูลด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงระดับการเก็งกำไรที่ส่งผลกระทบให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่บางแห่งพุ่งสูงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกตั้งข้อสังเกตุว่า การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจีนอาจสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งบ่งชี้ผู้บริโภคเริ่มซื้อสินทรัพย์ในรูปของอสังหาริมทรัพย์เพราะคิดว่าอีกไม่นานมูลค่าสินทรัพย์ประเภทนี้จะปรับตัวสูงขึ้น
โดยราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนในเดือนธ.ค.ไต่ระดับขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 18 เดือน ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคในการควบคุมกระแสเก็งกำไรในขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนอาจต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเม็ดเงินดังกล่าว หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้แนะให้สถาบันการเงินเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ในรูปของทุนสำรองมากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในเดือนธ.ค.ราคาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใน 70 เมืองของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.8% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับที่ขยายตัว 5.7% ในเดือนพ.ย. ขณะที่มูลค่าบ้านหรูในเซี่ยงไฮ้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนทะยานขึ้น 75.5% แตะที่ 4.4 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายบ้านทางพื้นที่ภาคตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียงและเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ ยอดขายที่เฟื่องฟูในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับอานิสงส์จากอัตราการปล่อยกู้ที่พุ่งสูงเกินคาดถึง 9.59 ล้านล้านหยวนในปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้หนุนให้ระบบเศรษฐกิจมีสภาพคล่องอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีมองว่า สภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจของจีนคือต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ ที่สำคัญจีนต้องหันมาตระหนักถึงการใช้จ่ายภาคสาธารณะด้วย มิเช่นนั้นจีนจะเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพด้านราคาอสังหาริมทรัพย์ ควบคุมการลงทุนเก็งกำไร และรักษาระดับการซื้อขายที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งเสริมว่าจะปรับนโยบายการจัดเก็บภาษีในอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน รวมถึงการกำหนดข้อบังคับด้านการทำธุรกรรมในที่ดินทำกิน