ธนาคารกลางอังกฤษอาจยุติแผนการซื้อพันธบัตรมูลค่า 2 แสนล้านปอนด์ (3.20 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะเจ้าหน้าที่กำลังประเมินว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มแผ่วตัวลงหรือไม่ในช่วงปลายปี หลังจากที่ในไตรมาส 4 ปี 2552 เศรษฐกิจอังกฤษกระเตื้องขึ้น 0.1%
โดยธนาคารกลางจะยุติการซื้อพันธบัตรล็อตใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มใช้โครงการผ่อนคลายด้านการเงินในเดือนมี.ค.2552 ซึ่งธนาคารกลางจะเปิดเผยถึงข้อสรุปในการตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในวันที่ 4 ก.พ.นี้
ด้านนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกำลังหามาตรการรับมือกับภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อที่อาจปะทุขึ้นอันสืบเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังมีข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการบ่งชี้ว่า อังกฤษรอดพ้นจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ขยายตัวดีขึ้น ราคาบ้านเดือนม.ค.ที่ถีบตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกขยับขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่ามีความจำเป็นที่จะเพิ่มการใช้มาตรการกระตุ้นใหม่ๆเพื่อลดปัญหายอดขาดดุลบัญชีหรือไม่ หลังจากที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายในอนาคต หากยังไม่มีปัจจัยหนุนเข้ามา ซึ่งอาจทำให้ธนาคารต้องผ่อนคลายมาตรการด้านการเงินในอนาคต
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่า รัฐบาลจะเริ่มดำเนินการปรับลดยอดขาดดุลการค้า 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐทันทีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น