สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนยังเป็นปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,105.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 21.20 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,077.20-1,107.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 16.660 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 47.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.1 เซนต์ ปิดที่ 3.0835 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,539.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 33.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมี.ค.ปิดที่ 428.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Rosland Capital กล่าวว่า สัญญาทองคำทะยานขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ ร่วงลง 0.3%
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากดีมานด์ทองคำในจีนที่เพิ่มขึ้นก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน และข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน สหรัฐ และญี่ปุ่น โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด
ขณะที่จีนรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 55.8 จุด ในเดือนม.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว และญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.2% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10