โรชเผยกำไรสุทธิปี 2552 ปรับตัวลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการเจเนนเทค อิงค์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐด้วยวงเงิน 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์
โรช โฮลดิ้ง เอจี บริษัทผู้ผลิตยาชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์รายงานว่า ผลกำไรสุทธิปี 2552 ทรุดตัวลง 22% แตะที่ 8.51 พันล้านฟรังค์สวิส (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการแล้วพบว่า ผลกำไรสุทธิลดลง 9% อยู่ที่ 9.8 พันล้านฟรังค์สวิส
ทั้งนี้ โรชทำกำไรได้น้อยกว่าโนวาร์ตีส บริษัทคู่แข่งที่มีผลกำไรสุทธิตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1.027 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่โรชมียอดขายมากกว่าที่ระดับ 4.644 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับยอดขายของโนวาร์ตีสที่ 4.427 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหุ้นของโรชเพิ่มขึ้น 10% แตะที่ 12.19 ฟรังค์ และบริษัทตั้งเป้าเพิ่มตัวเลขเงินปันผลต่อหุ้นขึ้นอีก 20% เป็น 6 ฟรังค์
ขณะเดียวกัน ซีอีโอของโรชมองว่า ผลประกอบการของโรชอยู่ในข่ายที่ดีมาก เมื่อพิจารณาจากปัจจัยภายนอกที่เลวร้าย
โดยการควบรวมกิจการระหว่างโรชกับเจเนนเทคทำให้ในปีที่ผ่านมา โรชมีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร 2.4 พันล้านฟรังค์ หลังจากที่บริษัทได้เสร็จสิ้นการควบกิจการกับเจเนนเทคในวงเงิน 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนมี.ค.2552 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ช่วยกระตุ้นรายได้ในส่วนของยอดขายยา Avastin และยา Rituxan ที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ โรชคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถเติบโตได้ 5% และคาดว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอีก 10 รายการ หลังยอดขายยาต้านไวรัสทามิฟลูในปีที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นแตะ 3.2 พันล้านฟรังค์ ท่ามกลางการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่บริษัทคาดว่าในปีนี้ยอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปีนี้จะลดลงเหลือ 1.2 พันล้านฟรังค์