เวียดนามตั้งเป้าพัฒนารถไฟหัวกระสุนเป็นเจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังเพิ่มการใช้จ่ายด้านระบบสาธารณูปโภคเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เล็งดึงกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้รับเหมาโครงการภายใต้งบประมาณการก่อสร้าง 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทเวียดนาม เรลเวย์ คอร์ป เปิดเผยว่า เส้นทางรถไฟระยะ 1,555 กิโลเมตรระหว่างกรุงฮานอย-โฮจิมินห์ซิตี้นั้นเหมาะที่จะใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น และสภาพภูมิประเทศของเวียดนามเหมือนกับญี่ปุ่นตรงที่มีประชากรมากกว่าพื้นที่ในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้รับเหมาที่นำโดยบริษัทซูมิโตโม่ คอร์ป และมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ ต้องแข่งกับบริษัทอิโตชู คอร์ป และคาวาซากิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ เพื่อคว้าสัญญาดังกล่าว ในระหว่างที่เวียดนามวางแผนทำสัญญากับผู้รับเหมาภายใน 1 ปี เพื่อเริ่มเดินหน้าก่อสร้างเส้นทางรถไฟในปี 2555 ก่อนจะเปิดให้บริการส่วนแรกในปี 2563
ทั้งนี้ เงินงบประมาณสำหรับการพัฒนารถไฟหัวกระสุนครั้งนี้จะมาจากหลายช่องทางด้วยกัน ทั้งจากเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ กองทุนของรัฐบาล และหุ้นส่วนภาคเอกชน
ขณะเดียวกัน ราคาตั๋วรถไฟหัวกระสุนตลอดเส้นทางอาจอยู่ที่ประมาณ 75% ของราคาเฉลี่ยตั๋วเครื่องบินในปัจจุบันที่บินระหว่างฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ นอกจากนี้ เส้นทางรถไฟของเวียดนามจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายสถานีรถไฟที่สร้างขึ้นในสมัยที่เวียดนามเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในปี 2424-2479 ซึ่งสถานีดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีน ลาว และกัมพูชา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เวียดนามมองว่าการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานคือรากฐานสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งแผนการสร้างรถไฟหัวกระสุนของเวียดนามในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่จีนเพิ่งเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรระหว่างเมืองกวางโจว-หวู่ฮั่นเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามเปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟในปี 2552 ปรับตัวลดลง 2.6% แตะที่ประมาณ 11 ล้านราย ขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินเพิ่มขึ้น 4.2% แตะระดับ 10.97 ล้านราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับข้อมูลเมื่อปี 2547 ที่ระบุว่า จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟมีจำนวนสูงถึง 12.8 ล้านราย เมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการเครื่องบินที่มีอยู่เพียง 5 ล้านราย