เวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย เผยกำไรไตรมาสแรกของปีงบประมาณพุ่งสูงขึ้น 33% หลังจากที่ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้มากขึ้นและยอดการผิดนัดชำระของลูกค้าปรับตัวลดลง โดยกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.42 พันล้านดอลลาร์ จากระดับปีที่แล้วที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
เกล เคลลี ซีอีโอของเวสท์แพคกล่าวว่า ค่าธรรมเนียมการตั้งสำรองการด้อยค่าในไตรมาสแรกร่วงลงประมาณ 50% หลังจากที่เศรษฐกิจออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นและช่วยผ่อนคลายแรงกดดันที่มีต่อผู้กู้ที่ต้องชำระหนี้ตามกำหนด โดยต้นทุนด้านการระดมทุนจะยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เวสท์แพคเองสามารถทำส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้นจากทุกธุรกิจ ทั้งการปล่อยกู้ซื้อบ้านไปจนถึงเงินฝากรายย่อย
เวสท์แพคเผยยอดการปล่อยกู้เพิ่มขึ้น 1.7% จากสถิติเดือนก.ย. โดยเฉพาะธุรกิจการจำนอง ส่วนค่าธรรมเนียมการตั้งสำรองการด้อยค่าในไตรมาสแรกของปีงบประมาณอยู่ที่ 400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ที่ 800 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของแบงค์
ทั้งนี้ หุ้นเวสท์แพค ดีดตัวขึ้นถึง 5.4% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงค์ของออสเตรเลีย เช่น หุ้นคอมมอนเวลท์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลีย บวก 0.9% หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ พุ่ง 3.5% และหุ้นเอเอ็นแซท พุ่ง 4.3%