ฮ่องกงเตรียมใช้มาตรการลดความเสี่ยงในตลาดที่อยู่อาศัย ตั้งเป้าป้องกันภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายจอห์น ซัง รัฐมนตรีคลังฮ่องกง ได้กล่าวในระหว่างการแถลงงบประมาณประจำปีต่อสภานิติบัญญัติวันนี้ว่า ทางกระทรวงฯจะกำหนด 4 มาตรการสำคัญเพื่อควบคุมดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การเพิ่มโครงการก่อสร้างห้องชุด การขึ้นอัตราอากรแสตมป์สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การสร้างหลักประกันด้านการทำธุรกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่โปร่งใส และการควบคุมอัตราการขยายตัวอย่างร้อนแรงของยอดปล่อยกู้จำนอง
โดยจำนวนที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จจะพุ่งขึ้นแตะที่ 14,300 ยูนิตในปีนี้ และในอีก 3-4 ปีต่อจากนี้ คาดว่า จำนวนที่อยู่อาศัยจะขยายตัวแตะ 53,000 ยูนิต
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ร่างรายละเอียดของมาตรการกำกับดูแลตลาดอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2553-2554 อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของตลาด ซึ่งรัฐบาลจะเริ่มนำโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองหลายๆแห่งออกมาขายทอดตลาดในช่วง 2 ปีหน้า
ขณะเดียวกัน รมว.คลังกล่าวว่า "ผมเสนอให้มีการขึ้นอัตราอากรแสตมป์สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง จาก 3.75% เป็น 4.25% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป และผู้ซื้อไม่สามารถยืดเวลาจ่ายอากรแสตมป์สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวได้อีกต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างความแข็งแกร่งและกระตุ้นการขยายตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมีเสถียรภาพ"
นอกจากนี้ จอห์น ซัง ยังได้ย้ำถึงความสำคัญในการรักษาสมดุลของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยามที่ฮ่องกงยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก ซึ่งทางรัฐบาลจะจับตาสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิดและจะออกมาตรการใหม่ๆเมื่อถึงคราวจำเป็น