ธนาคารกลางกรีซคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะหดตัวราว 2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวในระดับเดียวกับปีที่แล้ว และรุนแรงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ เนื่องจากผลกระทบจากการที่รัฐบาลตัดงบประมาณการใช้จ่าย
ทั้งนี้ ในรายงานประจำปีนั้น ธนาคารกลางกรีซได้อนุมัติมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลมูลค่า 4.8 พันล้านยูโร หรือ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยอมรับว่าการลดงบประมาณรายจ่ายจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
การที่ธนาคารกลางกรีซคาดว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะหดตัวราว 2% ในปีนี้ มากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวเพียง 1.2-1.7% แต่ยังน้อยกว่าที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปคาดว่าจะหดตัวลงรุนแรงถึง 2.25% อย่างไรก็ตาม นายจอร์จ ปาปาคอนสเตนตินู รมว.คลังของกรีซยังคงคาดหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวขึ้น ตราบเท่าที่รัฐบาลยังตั้งเป้าลดยอดขาดดุลงบประมาณและใช้มาตรการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางกรีซคาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ระดับ 12.9% ของตัวเลขจีดีพีปี 2552 ซึ่งรุนแรงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 12.7% และคาดว่าตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซจะมีอยู่สูงถึง 115% ของตัวเลขจีดีพีปี 2552 ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลประมาณการไว้ที่ 113.4%
ขณะเดียวกันธนาคารกลางกรีซคาดว่า อัตราค่าแรงภายในประเทศโดยเฉลี่ยในปีนี้จะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี เนื่องจากภาครัฐและภาคธุรกิจลดงบประมาณการใช้จ่าย
การเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของธนาคารกลางกรีซมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) มีความขัดแย้งกันในเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ นอกจากนี้ วิกฤตการณ์การเงินยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นกรีซ โดยดัชนีตลาดหุ้น Athens Stock Market ดิ่งลง 2.75% และยังส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวลในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วย