กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.7% ในเดือนมีนาคม หลังจากที่อัตราจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น 162,000 อัตรา ส่งสัญญาว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยอัตราจ้างงานเดือนมีนาคมถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 อัตรา
บริษัทเอกชนจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น 123,000 อัตรา ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2550 ส่วนภาครัฐมีการจ้างพนักงานชั่วคราวมากขึ้นเพื่อทำการสำรวจจำนวนประชากรครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นทุก 10 ปีในปีนี้
ภาคการผลิตยังคงมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 อัตราในเดือนมีนาคม และสำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ภาคส่วนนี้มีการจ้างงานเพิ่ม 25,000 อัตรา ส่วนการจ้างงานภาคการก่อสร้างยังทรงตัวในเดือนมีนาคม หลังจากที่มีการปลดพนักงานเฉลี่ย 72,000 อัตราต่อเดือนในช่วง 12 เดือนท่ผ่านมา
ด้านภาคการเงินมีการปลดพนักงาน 21,000 อัตราในเดือนมีนาคม โดยธุรกิจประกันภัยมีการปลดพนักงานมากที่สุดถึง 9,000 อัตรา ส่วนภาคสารสนเทศมีการจ้างงานลดลง 12,000 อัตรา
จำนวนชั่วโมงทำงานเฉลี่ยของพนักงานเพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 34 ชั่วโมงในเดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากนายจ้างมักให้ลูกจ้างเดิมทำงานมากขึ้นก่อนที่จะจ้างพนักงานเพิ่ม
ส่วนรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของพนักงานเอกชนนอกภาคการเกษตรลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ 22.47 ดอลลาร์ หลังจากที่รายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นราว 1.8% ตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา
การว่างงานเป็นหนึ่งในปัญหาหนักสุดที่รัฐบาลสหรัฐต้องเผชิญ โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เน้ยย้ำมาตลอดว่าจะไม่มีวันหยุดจนกว่าชาวอเมริกันที่มีคุณสมบัติทุกคนจะได้งานทำ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะยังคงอยู่เหนือระดับ 9% ไปจนถึงสิ้นปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน