นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความคิดเห็นทางรายการ “This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว และเชื่อว่าภาคเอกชนจะปรับเพิ่มสต็อกสินค้า ก่อนที่ระบบเศรษฐกิจจะเข้าสู่วงจรการขยายตัวอย่างยั่งยืน
กรีนสแปนกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังได้แรงหนุนจากบริษัทเอกชนที่เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้และวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม กรีนสแปนกล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงอ่อนแอ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจเกิดภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ นอกจากนี้ กรีนสแปนกล่าวว่า กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพที่สภาคองเกรสอนุมัติเมื่อไม่นานมานี้นั้น อาจทำให้รัฐบาลสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณสูงถึง 1.43 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี
การแสดงความคิดเห็นของกรีนสแปนมีขึ้นในวันเดียวกับที่นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ กล่าวแสดงความคิดเห็นทางรายการ “This Week" ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะช่วยกระตุ้นการจ้างงานในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 9.7% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยอุตสาหกรรมการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 อัตราในเดือนมี.ค. ส่วนการจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างยังทรงตัว หลังจากที่มีการเลิกจ้างงานโดยเฉลี่ย 72,000 อัตราต่อเดือนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศมีการจ้างงานลดลง 12,000 อัตรา