RealtyTrac Inc. ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชื่อดังในด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดเนื่องจากถูกบังคับจำนอง (foreclosure) ในสหรัฐช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 932,234 หลัง เนื่องจากอัตราว่างงานที่สูงขึ้นในสหรัฐส่งผลให้ประชาชนผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ซื้อบ้าน
ข้อมูลของ RealtyTrac บ่งชี้ว่า รัฐเนวาด้ามีสถิติบ้านถูกยึดมากที่สุดติดต่อกัน 14 ไตรมาส โดยจำนวนบ้านถูดยึดในรัฐนี้อยู่ที่ระดับ 34,557 หลัง ตามมาเป็นอันดับสองด้วยรัฐอริโซนา และรัฐฟลอริด้ามาเป็นอันดับ 3
วิกฤตการณ์การเงินและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐตกต่ำลงอย่างหนัก สวนทางกับจีนที่ก้าวขึ้นเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก คัชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ แอลแอลพี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ระบุว่า จีนก้าวขึ้นแซงหน้าสหรัฐในฐานะตลาดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลกในปี 2552 และคาดว่าจีนจะสามารถรักษาสถานะดังกล่าวเอาไว้ได้อีกครั้งในปี 2553 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดีกว่าและพึ่งพาการกู้ยืมน้อยกว่าสหรัฐ