สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงกว่า 12 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงการจ้างงานในภาคเอกชนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง รวมถึงทองคำ นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,210.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,202.40 - 1,226.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 38.40 เซนต์ ปิดที่ 17.9310 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,542.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 7.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 450.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.50 ดอลลาร์
นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน และภาคการผลิตที่ยังคงมีการขยายตัว
โดยทางการสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 10,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 453,000 คน และทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ขณะที่ ADP Employer Services รายงานว่าภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงาน 55,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ส่วนยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนเม.ย. แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.8%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนพ.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 508,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 9.8%