กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 32.1% จากปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,311.04 พันล้านเยน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากดีมานด์สินค้าญี่ปุ่นในเอเชียและสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงสินค้าจำพวกรถยนต์และเซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งช่วยให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นอยุ่ที่ระดับ 3.2424 แสนล้านเยน พุ่งขึ้น 15.2% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 33.4% สู่ระดับ 4,986.81 พันล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
ข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ยอดส่งออกไปยังสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 17.7% สู่ระดับ 7.5801 แสนล้านเยน ทำให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐทั้งสิ้น 2.3924 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดส่งออกไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น 25.3% สู่ระดับ 1,021.22 พันล้านเยน อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังคงมียอดขาดดุลการค้ากับจีนมูลค่า 5.834 หมื่นล้านเยนในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังยุโรปพุ่งขึ้น 17.4% สู่ระดับ 6.1583 แสนล้านเยน ทำให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับยุโรปเพิ่มขึ้น 51.9% สู่ระดับ 1.2726 แสนล้านเยน โดยกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างญี่ปุ่นและยุโรปมากนัก นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีตัวเลขเกินดุลการค้ากับภูมิภาคเอเชียที่ระดับ 7.7444 แสนล้านเยนในเดือนพ.ค. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน