สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 - 27 มิ.ย.นี้ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดานั้น ที่ประชุมจะหารือกันเรื่องปัญหาด้านการคลังที่กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
เกียวโดระบุโดยอ้างร่างเอกสารการประชุมว่า ที่ประชุม G20 เตรียมออกแถลงการณ์เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีความต่อเนื่องและเปราะบาง ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้ นอกจากนี้ การใช้จ่ายด้านการคลังจำนวนมากหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ทำให้สถานะการคลังของหลายประเทศร่อยหรอลง
ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ตระหนักว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและการที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงภาคเอกชนมาเป็นเวลานานนั้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว อีกทั้งตระหนักว่า ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของหนี้สาธารณะนั้น หลายประเทศในยุโรปมุ่งมั่นใช้มาตรการรัดเข็มขัด ในขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นระมัดระวังเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เร็วเกินไป โดยกลุ่ม G20 ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลระหว่างสถานะทางการคลังและการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนในเรื่องการลดจำนวนคนยากจนและลดช่องว่างระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและประเทศที่ยากจนนั้น กลุ่มผู้นำ G20 จะตกลงกันเรื่องการจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจกลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้