ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจนิวซีแลนด์ปรับตัวลดลงในไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัว ซึ่งทำให้ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นลดน้อยลง
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า 18% ของบริษัทที่ถูกสำรวจมองว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 22% ในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ปรับตัวลดลงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ที่ตอกย้ำว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะยังไม่ขยายตัวได้เร็วอย่างที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ และเมื่อเดือนที่แล้วนายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.75% ซึ่งนับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มขยายตัวเป็นวงกว้าง และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต
โดยในการสำรวจความคิดเห็นในเดือนที่แล้ว นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 3% ในการประชุมวันที่ 29 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของยอดขายและผลกำไรของภาคธุรกิจเริ่มหยุดชะงักลงในไตรมาส 2 ขณะที่ 7% ของบริษัทที่ทำการสำรวจมองว่า บรรยากาศในการดำเนินธุรกิจจะย่ำแย่ลงใน 3 เดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งผลสำรวจดังกล่าวเท่ากับระดับที่สำรวจในก่อนหน้านี้ ขณะที่ 16% มองว่าผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจจะปรับตัวลดลง
ขณะเดียวกัน แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 3 ของปีนี้ปรับตัวลดลง โดย 11% คาดว่าบรรยากาศทางการค้าจะคึกคักขึ้นในไตรมาสต่อไป ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 15% ในผลสำรวจก่อนหน้านี้ แต่ 6% ของบริษัทที่ร่วมการสำรวจคาดว่า ผลกำไรจะปรับตัวลดลงในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2% ในการสำรวจก่อนหน้านี้