ยอดส่งออกของจีนในเดือนมิ.ย.มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระดับสูง ขณะที่รัฐบาลอาจเปิดเผยนโยบายใหม่ด้านการค้าระหว่างประเทศภายในเดือนนี้ เพื่อเร่งเดินหน้าปฏิรูปแนวทางการค้ากับประเทศอื่นๆ
โบรกเกอร์จากบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกในเดือนมิ.ย.จะขยายตัวสูงสุดที่ระดับ 53% ขณะที่บางส่วนคาดว่าการขยายตัวของยอดส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งสำนักงานศุลกากรจีนจะรายงานยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศปฏิรูปนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงปรับค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระทรวงการคลังได้ยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีส่งออกสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ 400 รายการ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์โลหะ โลหะปลอดเหล็ก และวัสดุก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.เป็นต้นไป ซึ่งหลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้จะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อการส่งออกของจีน แม้ว่าในเดือนมิ.ย.จะยังไม่เห็นถึงผลกระทบดังกล่าวชัดเจนมากนัก
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่าการส่งออกของจีนจะเริ่มชะลอตัวในครึ่งปีหลัง จากผลพวงของนโยบายใหม่การขึ้นค่าแรง ข้อพิพาทด้านการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งหัวหน้าสถาบันวิจัยของกระทรวงพาณิชย์จีนคาดว่าการส่งออกของจีนจะเริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นอกจากนี้ ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางการค้าในต่างประเทศช่วงครึ่งปีหลัง คือ รัฐบาลจะเร่งการปฏิรูปโครงสร้างการค้าและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อขายสินค้ากับต่างประเทศ