ฟิลิปปินส์มีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิอยู่ที่ระดับ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศที่กำลังฟื้นตัวช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์รายงานว่าเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้นในเดือนดังกล่าว โดยเม็ดเงินประเภททุน และกำไรที่นำกลับมาลงทุน (reinvested earnings) ไหลเข้าประเทศจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ และ 8 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ส่วนทุนเรือนหุ้น (Equity capital) ไหลเข้ามาประมาณ 57 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเดือนเมษายนปีนี้ก็ยังน้อยกว่าเดือนเมษายนปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 601 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการขายหุ้นบริษัท ซานมิเกล บริวเวอรี่ อิงค์ ให้กับบริษัท คิริน โฮลดิงส์ ของญี่ปุ่น
"แม้เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่ฟิลิปปินส์ก็ยังมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าจำนวนมากเนื่องจากรากฐานเศรษฐกิจดี" อามันโด เอ็ม เททังโก จูเนียร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าว
สำหรับช่วง 4 เดือนแรกของปีฟิลิปปินส์มีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิที่ระดับ 481 ล้านดอลลาร์ โดยทุนประเภทเงินที่บริษัทลูกในฟิลิปปินส์กู้ยืมจากบริษัทแม่ในต่างประเทศไหลเข้ามาราว 339 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรที่นำกลับมาลงทุนอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณทุนเรือนหุ้นที่ไหลเข้ามานั้นลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วแตะที่ 102 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลเรื่องวิกฤตหนี้สินในยุโรป รวมถึงผลการเลือกตั้งในประเทศในเดือนพฤษภาคม
นักลงทุนในฟิลิปปินส์ส่วนมากมาจากสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และฮ่องกง สำหรับภาคส่วนที่ได้ประโยชน์จากทุนเรือนหุ้นมากที่สุดคือภาคการผลิต สาธารณูปโภค บริการ สื่อกลางทางการเงิน อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงคมนาคม/การเก็บรักษาสินค้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน