รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ดูแลด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จากกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของ SME ในฐานะที่เป็นปัจจัยผลักดันสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อมหารือถึงแนวทางในการส่งเสริมการพัฒนา SME เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของภูมิภาค
ในแถลงการณ์ร่วมภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันเป็นเวลาสองวันที่เมืองจิฟุ ทางภาคกลางของญี่ปุ่น ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับ SME ว่าเป็นแหล่งสำคัญของการจ้างงานและความเจริญรุ่งเรือง ตลอดจนมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรม
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยรวมยังคงมีความยืดหยุ่นในช่วงที่เกิดภาวะถดถอยทั่วโลก และคาดว่าภูมิภาคนี้จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อไป
"เราเชื่อมั่นว่า การเติบโตและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ SME ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ยุทธศาสตร์การขยายตัวของเอเปค (APEC Growth Strategy) บรรลุผลสำเร็จ"สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าว ผู้แทน 20 เขตเศรษฐกิจ จากกลุ่มเอเปคที่ประกอบด้วยสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามอัตราการขยายตัวของจีดีพีในช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เพื่อหารือถึงผลกระทบของวิกฤตการเงินที่มีต่อ SME
นอกจากนี้ สมาชิกยังได้หารือเกี่ยวกับทิศทางของยุทธศาสตร์การขยายตัวระยะยาวของ SME ในกลุ่มเอเปคจนถึงปี 2563 โดยให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจเหล่านี้ในภาคอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูง และช่วยเหลือให้สามารถเข้าถึงตลาดโลกได้
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระดับรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพ.ย.นี้