ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของสหรัฐประจำเดือนต.ค.ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันมีมุมมองในแง่ลบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 23.84 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 5,703.37 จุด
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเผชิญกับปัจจัยลบจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นประจำเดือนต.ค.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนร่วงลงสู่ระดับ 67.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา และลดลงจากระดับ 68.2 จุดในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคที่ขยับขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 0.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำถึงความกังวลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
โดยเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้น ณ ที่ทำการเฟดสาขาบอสตันว่า อัตราว่างงานที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล
การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้มีใจความสอดคล้องกับรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งระบุว่า เฟดมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหากจำเป็น
ทั้งนี้ หุ้น Old Mutual ในกลุ่มการเงินเป็นตัวนำฉุดตลาดร่วงลงเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยหุ้นดังกล่าวตกลง 4.8% ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 6 เดือน ขณะที่หุ้นเอ็กซ์ตราต้าทรุดตัวลง 2.3%