ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 44.68 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 5,707.30 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,677.20-5,754.20 จุด
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารได้ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ แม้สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษ ขยายตัว 0.8% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.2%
นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชือถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของอังกฤษ เป็น "มีเสถียรภาพ" จากเดิม "เชิงลบ" ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลอังกฤษ
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สและหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วงลงกว่า 1.4% หลังจากธนาคารกลางยูบีเอสรายงานว่า ธุรกิจวาณิชธนกิจของยูบีเอสประสบกับภาวะขาดทุนในไตรมาส 3 แม้ธนาคารมีกำไรโดยรวมไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นแตะ 1.65 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม
หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ร่วงลง 5.9 % หลังจากบริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนท์ส ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเออาร์เอ็มระบุว่า ความต้องการของผู้บริโภคปรับตัวลดลง ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเออาร์เอ็มร่วงลงทันทีแม้ทางบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม