โบรกฯหนุน"ซื้อ" DCC คาด Q4/53-Q1/54 รับอานิสงค์ซ่อมครั้งใหญ่หลังน้ำลด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 29, 2010 12:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไดนาสตี้ เซรามิค(DCC)คาดการณ์ว่าในไตรมาส 4/53 จะมีกำไรสูงขึ้นจากไตรมาส 3/53 ที่ลดลงตามฤดูกาล และได้รับปัจจัยบวกจากความเสียหายน้ำท่วมไปจนถึงไตรมาส 1/54 ประกอบกับในปีหน้าการขยายกำลังการผลิตของบริษัทจะเสร็จสิ้นทำให้สามารถรองรับตลาดได้เต็มที่และยังสามารถประหยัดเรื่องต้นทุน

คาดการณ์ปี 53 กำไรสุทธิเติบโตสูงถึง และทั้งปี 53 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิมาที่ระดับ 1.26 พันล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน และปี 54 กำไรสุทธิโตต่อเนื่อง และการจ่ายปันผลทุกรายไตรมาส สร้างเสน่ห์ให้กับหุ้น DCC

          โบรกเกอร์       คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท)

          บล.เคจีไอ         ซื้อ               65.00
          บล.ทิสโก้          ซื้อ               64.00
          บล.กิมเอ็ง       ซื้อเมื่ออ่อนตัว         63.00
          บล.โกลเบล็ก     ซื้อเมื่ออ่อนตัว         61.00
          บล.ธนชาต         ซื้อ               61.00
          บล.ดีบีเอสฯ        ถือ               58.00

นักวิเคราะห์ จาก บล.เคจีไอ คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/53 เติบโตสูง โดยคาดว่าจะมีกำไรเติบโต 45% YoY และ โต 17% QoQ โดยส่วนหนึ่งได้รับประโยชน์จากภาวะน้ำท่วมจะมีการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างหลังน้ำลด

และคาดว่าทั้งปี 53 จะมีกำไรสุทธิ 1,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน และในปี 54 มีกำไรสุทธิโตต่อนนื่องโดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,366 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี 53

เนื่องจากบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตในเดือนต.ค.และ ธ.ค. 53 โดยสิ้นปีจะมีกำลังการผลิตรวม 6.1 ล้านตร.ม./ปี หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 14% ประกอบกับมีอัตราผลตอบแทนในระดับดี ประมาณ 5.3% ในปี 53

"มองว่าหลังน้ำลดจะมียอดซื้อกระเบื้องเพิ่ม ซึ่งของเขาเน้นตลาดต่างจังหวัด กระเบื้องปูพื้นเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยม Key ของ DCC ถ้าผลผลิตการเกษตรดี ตลาดเขาก็ดีไปด้วย"นักวิเคราะห์ กล่าว

ได้ประเมินราคาเป้าหมายในปี 54 เป็น 65 บาท จากปี 53 ที่ให้ราคาเป้าหมายไว้ 55 บาท

ด้านนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/53 คาดยังคงเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและกลับมาเติบโตจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ คาดกำไรปี 53 ที่ 1,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% YoY และ ในปี 54 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 19% เป็น 1,509 ล้านบาท

จากแผนการเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นปี 53 จนถึงปัจจุบัน DCC มีการเปิดเครื่องจักรใหม่แล้วจำนวน 3 เตา และคาดว่าจะเปิดเพิ่มอีกในต้นปี 54 อีก 1 เตา ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมในปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 60-61 ล้าน ตร.ม./ปี เพิ่มขึ้นจากปลายปี 52 ที่มีกำลังการผลิต 48 ล้าน ตร.ม./ปี หรือเพิ่มขึ้นถึง 27%

ด้านแนวโน้มความต้องการสินค้ากระเบื้องปูพื้นและบุผนังปัจจุบันยังคงมีอยู่มาก โดยมีปัจจัยบวกจากกำลังซื้อในตลาดต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับประโยชน์การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนต่างๆ หลังได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ส่งผลให้คาดว่า DCC จะยังคงสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่แม้จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และนอกจากจะส่งผลบวกต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด

"เราให้รอหาจังหวะเข้าซื้อตอนราคาลง เพราะราคาตอนนี้ใกล้ถึงราคาเป้าหมายที่ไห้ไว้" นักวิเคราะห์ กล่าว

โดยให้ราคาเป้าหมายปี 54 ที่ระดับ 61 บาท จากปี 53 ที่มีราคาเป้าหมาย 48 บาท

บล.ธนชาต คาดว่ากำไรจะเติบโตก้าวกระโดดในช่วงไตรมาส 1/54 หลังจากการขยายกำลังการผลิตของ DCC ในช่วงสุดท้ายเริ่มขึ้นในเดือนม.ค.54 ซึ่งพอดีกับความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะแข็งแกร่ง หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย

นอกจากนี้ DCC ยังมีจุดแข็งด้านต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุด และช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในต่างจังหวัด ซึ่งยังคงช่วยให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น และยังคงมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง ปัจจุบัน DCC เป็นบริษัทที่ปลอดหนี้ และจ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส และเนื่องจากไม่มีปัจจัยกังวลในเรื่องหนี้สิน จึงคงคำแนะนำ"ซื้อ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ