ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทย
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 44.63 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,174.25 จุด
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก เพราะคาดว่าที่ประชุมผู้นำยูโรโซนซึ่งประกอบไปด้วยนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี, นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้นั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการยับยั้งวิกฤตหนี้ยุโรป
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษยังได้แรงหนุนหลังจากบีเอ็นพี พาริบาส์ และโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ของฝรั่งเศศ ได้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการระดมทุนเพิ่ม โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ (RBS) พุ่งขึ้น 5.3% หุ้นธนาคารลอยด์ดีดขึ้น 4.2% ห้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 4.7%
หุ้นอินมาร์แซท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2% แม้นายแอนดรูว์ ซูคาวาตี ซีอีโอของอินมาร์แซท ยืนยันว่ายังไม่มีบริษัทกลุ่มไพรเวท อิควิตี้รายใดที่เข้ามาเจรจาเพื่อร่วมลงทุนกับอินมาร์แซทก็ตาม
อย่างไรก็ดี หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของสก็อตแลนด์ ร่วงลง 8.2% และหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองโลหะเงิน ดิ่งลง 3% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.พุ่งขึ้นแตะ 4.5% จากระดับ 4.4% ในเดือนก.ค. เนื่องจากราคาเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษเคลื่อนไหวอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของรัฐบาลมาเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว