นางเสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น [BKGI] เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการ (M&A) โดยเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและเจรจา ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร และคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ช่วยต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างธุรกิจด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายกิตติคุณ รอดรังนก ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน BKGI กล่าวว่า ในปี 68 บริษัทฯเดินหน้าขยายการให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์ร่วมกับพันธมิตร ทั้งในส่วนของห้องปฏิบัติการและให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ กับทางภาครัฐและเอกชน โดยตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 40-50 ล้านบาท รองรับการก่อสร้างห้องปฏิบัติการแห่งใหม่ เพื่อขยายฐานการตรวจหาความเสี่ยงทางด้านโรคมะเร็ง เสริมศักยภาพการให้บริการให้กว้างขึ้น และตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25 %
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 68.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.1 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจาก 1.รายได้จากการให้บริการได้แก่ การให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยเจริญพันธ์ การให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนการฝังตัว (PGT-A) ที่ได้ร่วมมือกับคลินิกผู้มีบุตรยาก 2.รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ การขายเครื่องมือห้องปฏิบัติการพร้อมน้ำยาสำหรับห้องปฏิบัติการ ที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯมองเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากการนำแพลตฟอร์ม NGS (Next Generation Sequencing) ของ MGI Tech เข้ามาให้บริการในประเทศไทย เพื่อรองรับการตรวจวินิจฉัยทางพันธุกรรม การคัดกรองโรคทางพันธุกรรม และการวิจัยด้านจีโนมิกส์ขั้นสูง ทั้งในภาคสาธารณสุข การแพทย์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ที่จะช่วยดึงดูดฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
BKGI ยังเปิดรับความร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำยาห้องปฏิบัติการต่างๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มของ MGI Tech เพื่อร่วมกันขยายตลาด NGS ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการตรวจพันธุกรรมคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว