SET ปิดวันนี้ที่ 1,191.75 จุด ลดลง 16.38 จุด (-1.36%) มูลค่าซื้อขาย 49,095.62 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่แข็งแรง หลังขึ้นมาได้เพราะ liquidity และ Fund Flow เมื่อตลาดได้รับรู้ข่าวการเจรจาการค้าและผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ไปแล้ว รวมทั้งผลประกอบการกลุ่มแบงก์ออกมากลาง ๆ ทำให้วันนี้เผชิญแรงขายออกมามาก แนวโน้มพรุ่งนี้ลุ้นโอกาสฟื้นในกรอบแคบ แนะติดตามการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ และงบไตรมาส 2/68 ให้แนวต้าน 1,201 จุด แนวรับ 1,181 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ 1,191.75 จุด ลดลง 16.38 จุด (-1.36%) มูลค่าซื้อขาย 49,095.62 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงมามากในช่วงบ่าย โดยทำระดับสูงสุด 1,213.24 จุด และต่ำสุด 1,191.65 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 115 หลักทรัพย์ ลดลง 159 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 381 หลักทรัพย์
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจาก SET ปรับขึ้นมากจากสภาพคล่องของตลาดที่เพิ่มขึ้นและกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในประเทศ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานในบ้านยังไม่มีสัญญาณที่ดี ดังนั้น เมื่อตลาดรับรู้ข่าวการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ และประเด็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ไปแล้ว รวมทั้ง ตัวเลขผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่ออกมากลาง ๆ ขณะที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงทำให้วันนี้มีแรงขายออกมามาก
แนวโน้มวันพรุ่งนี้มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบแคบ แนะติดตามการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ต่อไป และการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ด้วยเช่นกัน
โดยให้แนวต้าน 1,201 จุด และแนวรับ 1,181 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,707.87 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,585.61 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,337.80 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,193.55 ล้านบาท ปิดที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,607.61 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.50 บาท