
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในไทยรวมถึงทั่วโลกอยู่ในช่วงฟื้นตัวและยังมีช่องทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาคธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้ทันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ ไมเนอร์ ฟู้ด ที่มีความเข้าใจถึงบริบทที่เกิดขึ้น
บริษัทเดินหน้ากลยุทธ์ "Passion for Growth" เพื่อขับเคลื่อนสร้างการเติบโตให้องค์กร ตลอดช่วงปี 68-72 โดยมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับโมเดลธุรกิจ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรแฟรนไชส์ในตลาดศักยภาพทั่วโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการลงทุนและผลตอบแทน ปัจจุบัน ไมเนอร์ ฟู้ด มีพอร์ตธุรกิจมากกว่า 30 แบรนด์ และร้านค้ากว่า 2,700 สาขาใน 24 ประเทศ โดยเป็นร้าน แฟรนไชส์ จำนวน 1,300 สาขา หรือคิดเป็น 48% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต"
สำหรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจร้านอาหารจะมุ่งดำเนินงานผ่าน 3 แกนหลัก ประกอบด้วย
1. ขยายแบรนด์แฟรนไชส์ในประเทศไทยให้ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเช่น บอนชอน (Bonchon) แดรี่ควีน (Dairy Queen) และ กาก้า (GAGA) เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนาร้านฟอร์แมทใหม่ เช่น Dairy Queen stand-alone modular store ที่เปิดร่วมกับร้านสะดวกซื้อที่มีที่จอดรถ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย ใกล้กับที่อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
2. ผลักดันการขยายสาขาในต่างประเทศ เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ที่ไมเนอร์ ฟู้ด รุกขยายสาขา แดรี่ ควีน (Dairy Queen) และ กาก้า (GAGA) รวมถึง ประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ประเทศเพื่อนบ้าน CLMV และภูมิภาคตะวันออกกลาง ด้วยแบรนด์หลัก เช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) สเวนเซ่นส์ (Swensens) ซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) และเดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club)
3. การพัฒนาและขยายแบรนด์ใหม่ ที่ตอบโจทย์เทรนด์อาหารที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ผ่านการพัฒนาเอง การร่วมลงทุนกับพันธมิตร รวมถึง การเข้าซื้อแบรนด์ที่มีศักยภาพ ตัวอย่างเช่น การเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ เดอะ สเต็ก แอนด์ มอร์ (The STEAK & MORE) ที่ไมเนอร์ ฟู้ด พัฒนาขึ้นมาเองเพื่อมาตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบรับประทานสเต็กรสชาติเข้มข้น ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย
โดยในปี 72 ไมเนอร์ ฟู้ด ตั้งเป้ามีจำนวนร้านอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งสิ้นกว่า 4,500 ร้าน ซึ่งเป็นร้านแฟรนไชส์จำนวนกว่า 2,500 ร้าน หรือคิดเป็น 56% ของพอร์ตธุรกิจทั้งหมด ตอกย้ำว่ากลยุทธ์ดังกล่าวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับแบรนด์ในเครือสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก พร้อมการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน ลูกค้า รวมทั้งพันธมิตรแฟรนไชส์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง