ตลท.เผยในปี 54 SET-mai ทำสถิติสูงสุดหลายด้าน แม้เจอผลกระทบใน-นอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 11, 2012 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์สิ้นปี 54 ระบุว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) ณ สิ้นปี 2554 ปิดที่ 1,025.32 จุด ปรับลดลง 0.72 % จากสิ้นปี 2553

อย่างไรก็ดี การปรับลดลงยังเป็นการลดลงในระดับต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาคและดัชนีอ้างอิงที่สำคัญของภูมิภาคที่ปรับลดลงมากกว่า เช่น ดัชนี MSCI Emerging Markets ซึ่งปรับลดลงถึง 20.41% จากสิ้นปี 2553

SET Index ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยปิดที่ระดับ 1,144.14 จุด ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2554 และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มซื้อขายที่ระดับ 9.36 ล้านล้านบาท

ขณะที่ mai Index ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ที่ 319.60 จุด ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2554 และ market capitalization ทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 86,079.17 ล้านบาท

ในปี 2554 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 29,473.28 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มซื้อขาย และเพิ่มขึ้น 1.4% จากปี 2553 ทำให้ในด้านสภาพคล่องของตลาดหลักทรัพย์ไทย สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Share turnover velocity) ยังอยู่ในระดับสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงเป็นอันดับสองรองจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค

จำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2554 อยู่ที่ 695,837 บัญชี เพิ่มขึ้น 12.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2554 มีจำนวนบัญชีที่ซื้อขายเฉลี่ยรายเดือน (active account) อยู่ที่ 172,017 บัญชี เพิ่มขึ้น 14.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่จำนวนบัญชีอินเทอร์เน็ตที่มีการซื้อขายเฉลี่ยต่อเดือนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 80,547 บัญชี เพิ่มขึ้น 34.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในปี 2554 บริษัทจดทะเบียนระดมทุนผ่าน SET และ mai อยู่ที่ 82,520 ล้านบาท ลดลง 8.85% จากปี 2553สำหรับการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ปรับดีขึ้นทั้งด้านจำนวนบริษัทและมูลค่าระดมทุน โดยมีบริษัทจดทะเบียนใหม่ใน SET และ mai รวม 10 บริษัท และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เข้าจดทะเบียน 6 กองทุน คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 18,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.68% จากปี 2553 อย่างไรก็ตาม สำหรับการระดมทุนในตลาดรอง มีมูลค่า 64,057 ล้านบาท ลดลง 17.81% จากปี 2553

ในด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2554 ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดตัวกองทุน ETF จำนวน 5 หลักทรัพย์ที่ลงทุนในทองคำและหลักทรัพย์ที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทนสูง คือ GLD GOLD99 KG965 BCHAY และ 1DIV ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2554 มีกองทุน ETF รวมทั้งสิ้น 8 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Assets Value: NAV) ณ สิ้นปี 2554 มูลค่ารวม 5,623.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.51% จากสิ้นปี 2553

สำหรับภาวะตลาดอนุพันธ์ ปริมาณการซื้อขายรวมของตลาดอนุพันธ์ในปี 2554 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,027,116 สัญญา และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน 41,145 สัญญา เพิ่มขึ้น 120.31% จากปี 2553 โดยเป็นผลจากปริมาณการซื้อขาย gold futures และ SET50 Index futures ที่เพิ่มขึ้น

ตลาดอนุพันธ์เริ่มซื้อขาย silver futures ในเดือนมิถุนายน 2554 โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันตั้งแต่เริ่มซื้อขายถึงสิ้นปี 2554 อยู่ที่ 236 สัญญา ขณะที่ oil futures เริ่มซื้อขายในเดือนตุลาคม 2554 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันตั้งแต่เริ่มซื้อขายถึงสิ้นปี 2554 อยู่ที่ 64 สัญญา

ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2554 ตลาดอนุพันธ์เปิดให้ซื้อขาย commodity futures ในช่วงกลางคืน โดยคาบเกี่ยวเวลาซื้อขายของตลาด CME Group ทั้งนี้ปริมาณการซื้อขายในช่วงกลางคืนตั้งแต่ 20 มิถุนายน - 30 ธันวาคม2554 คิดเป็นสัดส่วนถึง 40.03% ของปริมาณการซื้อขายรวมของ commodity futures


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ