ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 29.82 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 6,656.99 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำโดยหุ้นริโอ ทินโต ผู้ประกอบการเหมืองแร่รายใหญ่อันดับสองของโลกและเกลนคอร์ เอ็กซ์สตราตาเพิ่มขึ้น 2.5% และ 1.7% ตามลำดับ
หุ้นธนาคารลอยด์ส ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อจำนองรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.9% ในขณะที่หุ้นธนาคารอาร์บีเอสเพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรปเพิ่มขึ้น 1.1%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2556 ลงเหลือ 2.4% จากที่ประมาณการไว้ครั้งแรกว่าขยายตัว 2.5% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐโดยอัตโนมัติ (sequestration)
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 354,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย