โกลเบล็ก คาดหุ้นไทยฟื้นปลายมิ.ย.ได้ Window dressing-ทริกเกอร์ฟันด์หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 11, 2013 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธวัชชัย อัศวพรชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงกว่า 70 จุด วันนี้ เป็นผลมาจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชีย อาทิ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนิเนีย ส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกมาในตลาดหุ้น ซึ่งป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคในกลุ่ม TIP ที่ปรับลงแรงทั้ง 3 ตลาด

ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกความกังวล กรณีสหรัฐอเมริกาอาจจะชะลอมาตรการ QE ส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลด้านตัวเลขเศรษฐกิจ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อาจจะพิจารณาปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหนักในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงจนถึงช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกในด้านใดเข้ามา ทำให้ทางบล.โกลเบล็ก ให้แนวรับไว้ที่ระดับ 1,450 และ 1,436 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านให้ไว้ที่ 1,485 จุด

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูปัจจัยบวกที่จะเข้ามาสนับสนุน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือหากจะเลือกลงทุนระยะสั้น แนะนำให้รอจังหวะเข้าไปทยอยสะสม ที่แนวรับ 1,436 จุด

นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากอาจจะมีปัจจัยหนุนกรณีวินโดว์ เดรสซิ่ง รวมถึง ทริกเกอร์ ฟันด์ ที่คาดว่าจะสามารถพยุงหุ้นไทยให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนักลงทุนควรที่จะหาจังหวะการลงทุน และป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้น

ด้านนายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) กล่าวว่า ในเดือนมิ.ย.คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ $1,340-1,485/Oz โดยยังถูกกดดันจากยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(FED)อาจจะหยุดการดำเนินมาตรการ QE ในระยะอันใกล้นี้ แนะนำให้ซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ $1,355-1,375/Oz และมีจุดขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ $1,400-1,430/Oz ประเด็นที่น่าติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐวันที่ 18-19 มิ.ย.56

สำหรับราคาทองคำโลกในเดือน พ.ค.56 ได้ปรับตัวลง โดยราคาปิด ณ วันที่ 31 พ.ค. 2556 อยู่ที่ $1,387.81/Oz ปรับตัวลดลงประมาณ $87.04/Oz หรือคิดเป็น 5.90% โดยราคาทองคำปรับตัวลงจากผลผลิตมวลรวมยูโรโซนไตรมาส 1/56 ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และผลผลิตมวลรวมเยอรมนีไตรมาส 1/56 ขยายตัวเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/55 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์

นอกจากนี้เบอร์นันเก้ยังส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่ากำหนดจะทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง ขณะเดียวกันก็กล่าวว่าการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรนั้นอาจจะมีขึ้นในการประชุมอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้ายังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำเพิ่มเติม แต่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/56 ขยายตัว 2.4% ซึ่งลดลงจากที่ประมาณการณ์ไว้ครั้งแรกว่าขยายตัว 2.5% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐโดยอัตโนมัติ และในการประชุมธนาคารกลางยุโรปได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในเดือน พ.ค. กองทุน SPDR ยังได้ขายลดสถานะออกมาเพิ่มเติมกว่า 62.08 ตันซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ