นายเทิดศักดิ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยตามตลาดหุ้นอื่นในต่างประเทศ ขณะที่ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความผันผวนจากแรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่มีแนวโน้มขายออกมาค่อนข้างแรงในช่วงนี้ ทำให้เป็นตัวฉุดตลาดลงจึงทำให้มีความผันผวน ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าดัชนีเป็นบวก
พร้อมให้แนวต้าน 1,470 จุด แนวรับ 1,420 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(1 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,974.96 จุด เพิ่มขึ้น 65.36 จุด(+0.44%) ดัชนีเอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,614.96 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด(+0.54%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,434.49 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด
(+0.92%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 201.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.00 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 35.65 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.25 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 มิ.ย.)ที่ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด(+0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,209.77 ล้านบาท เมื่อ 28 มิ.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำวานนี้(1 ก.ค.)ที่ 97.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(1 ก.ค.)ที่ 8.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.94/96 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ซ้ำรอยวิกฤติปี 2540 มองผิวเผินอาจคล้ายกัน เหตุทุนนอกไหลเข้าปั่นฟองสบู่หุ้น-อสังหาฯ ขณะที่ ธปท. ระบุนโยบายลอยตัวบาทช่วยลดความเสี่ยง ห่วงเพียง "ภาครัฐ" ชนวนก่อวิกฤติรอบใหม่ ด้าน "เศรษฐพุฒิ" ชี้ หากหลุดพ้นความเสี่ยงการคลังได้ รัฐควรเลิกประชานิยมแบบไม่จำกัดวงเงิน แต่เชื่อระยะสั้น 5 ปี ไร้แวววิกฤติการเงิน
- ผู้ประกอบกิจการบรอดแคสต์-โทรคมฯ-คอนเทนท์ โปรวายเดอร์ แห่ "ทดลอง" เคาะประมูลชิงช่องทีวีดิจิทัล 24 ช่องธุรกิจ กว่า 30 ราย เผยมีผู้สนใจช่อง "ข่าว-วาไรตี้เอสดี" สูงสุด กสทช.เตรียมเปิดทดลองเคาะอีกรอบ พร้อมเดินหน้าประมูล ก.ย.-ต.ค.นี้
- ส.อ.ท.เชื่อปรับ ครม.ใหม่ ไม่กระทบทีมเศรษฐกิจ เดินหน้าทำงานต่อได้ทันที จี้วางแผนรับมือเศรษฐกิจขาลงทั้งไทยและคู่ค้าต่างประเทศ ด้านหอการค้าไทย หวั่นส่งออกชะลอตัว ทำใจรับสภาพเชื่อพาณิชย์ทำได้แค่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ขาดการแก้ปัญหารากฐาน "นิพนธ์" แนะสร้างความโปร่งใสจำนำข้าวฟื้นเชื่อมั่น"เบญจา" ยันพร้อมปราบทุจริตภาษี
- นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. เท่ากับ 105.31 สูงขึ้น 2.25% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 43 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2552 1.9% และสูงขึ้น 0.15% เทียบกับเดือน พ.ค. 2556 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนปีนี้ สูงขึ้น 2.7%
- มอร์นิ่งสตาร์เผย ตลาดหุ้นจีนปีนี้ติด 1 ใน 3 ตลาดหุ้นที่มีผลงานแย่ที่สุดในโลก "กองทุนสูงสุดหุ้นจีน" อ่วม ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ 14.12% แนะนักลงทุนศึกษานโยบายการลงทุนให้ดีก่อนลงทุน ด้าน "บลจ.พิมโก้" เผยตลาดตอบรับเชิงลบหลังรัฐบาลจีนส่อแววคุมสินเชื่อ หลังจากสินเชื่อโตไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มองเป็นการกระทำที่ถูกต้อง แม้ว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจจีนโตต่ำกว่าคาดก็ตาม
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPCG(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมารับรู้ประเด็นการเลื่อนช่วงเวลาการใช้สิทธิ SPCG-W1 ไปแล้ว ขณะที่การปรับระยะเวลาการใช้สิทธิดังกล่าวไม่ได้กระทบกับการดำเนินงานปกติของบริษัท ตรงกันข้ามเงินที่ได้จากการใช้สิทธิจะถูกนำไปลดภาระหนี้เงิน และใช้พัฒนาโครงการโซล่าร์ฟาร์มที่เหลือ นอกจากนี้หลังการปรับโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 3 บริษัทยังมีแผนที่จะการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาด 5.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทบันทึกกำไรได้ราว 1.4 พันล้านบาทด้วย โดยมีแนวรับ และจุด Cut Loss ที่ 22.10 บาท แนวต้าน 25.00 บาท
- TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 90 บาท เชื่อราคาหุ้นได้ผ่านพ้น Overhang แล้ว หลังถูกถอดออกจากดัชนี SET 100 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. จึงส่งผลให้ราคาหุ้นมีแรงขายปรับพอร์ตของกองทุนในประเทศอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจัยบวกที่รออยู่ คือผลประกอบการ 2Q56 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงถึง +150% yoy เป็น 300 ล้านบาท จากยอดขายยางมะตอยในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง และราคาหุ้นซื้อขายบน PER 2556 เพียง 8.8 เท่า
- PTTEP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 182 บาท เชื่อการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX +1.48% dod เป็น US$97.99/บาร์เรล จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มเข้าสู่ทิศทางเติบโต และเหตุการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Energy ในวันนี้ ขณะที่กำไรปกติ 2Q56 คาดเติบโต yoy แต่ทรงตัว qoq ที่ราว 1.5 -1.6 หมื่นล้านบาท แต่จะเริ่มเห็นการเติบโตสูง yoy ตั้งแต่ 3Q56 เป็นต้นไป จากการรับรู้รายได้ของโครงการมอนทาร่า พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2556 โต +8.9% yoy เป็น 62,469 ล้านบาท
- KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 240 บาท ผู้บริหารยังคงเป้าหมายทางการเงินหลักในปีนี้ แม้เศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตัว แต่ไม่ส่งผลต่อเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมที่ธนาคารคาดไว้ที่ 9-12% (เราคาด 12%) ขณะที่เป้าหมายหลักในด้านอื่นๆ ยังเป็นไปตามเป้าเดิม ยกเว้นการตั้งสำรองหนี้สูญทั้งปีที่อาจเพิ่มเป็น 0.7-0.8% ของสินเชื่อรวม หรือราว 1-1.2 หมื่นล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่ตั้งไปแล้วใน 1Q13 สำหรับกำไรสุทธิใน 2Q13 เราคาด +1.2% Q-Q, +9.2% Y-Y เป็น 1.02 หมื่นล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายพิเศษเข้ามาเล็กน้อยแต่ชดเชยได้จากผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้น
- THRE(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"คาดผลประกอบการของ THRE จะพลิกเป็นกำไรได้ 918 ล้านบาทในปีนี้ +121% Y-Y (เริ่มมีกำไรเป็นครั้งแรกใน 4Q12) และ 1.1 พันล้านบาทในปีหน้า +20% Y-Y ประเมินราคาพื้นฐาน 6.50 บาทสำหรับปีนี้และ 8.26 บาทปีหน้า (อิงมูลค่าของสินทรัพย์ลงทุนสุทธิและมูลค่าธุรกิจในอนาคต)