(เพิ่มเติม) M จะเปิดสาขาร้านสุกี้ในพม่า-มาเลย์-ฟิลิปปินส์ปี 57,ศึกษาซื้อกิจการรุก AEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 15, 2013 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป(M) เตรียมขยายสาขาร้านสุกี้เอ็มเคในต่างประเทศเพิ่มเติมทั้งพม่า มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ในปี 57 หลังจากไปเปิดสาขาในอินโดนีเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ไปแล้ว พร้อมกับการเดินหน้าขยายสาขาในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทสนใจและเปิดรับข้อเสนอให้เข้าซื้อกิจการในต่างประเทศเพื่อต่อยอดการเติบโตของธุรกิจเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอของบริษัทใด

นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M เปิดเผยว่า ในปี 57 บริษัทจะมีการเปิดสาขาร้านสุกี้เอ็มเคเพิ่มในมาเลเซีย พม่า และฟิลิปปินส์ แห่งละ 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหาทำเล หลังจากปีนี้เปิดสาขาไปในเวียดนามที่กรุงโฮจิมินห์ 2 สาขา และฮานอย 1 สาขา ส่วนกรุงจากาตาร์ของอินโดนีเซีย 1 สาขาจะเปิดในเดือน ก.ย.56 และสาขาในสิงคโปร์เปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในเดือน พ.ย.

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาในต่างประเทศปีละ 1-2 สาขา และสนใจในการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศเมื่อมีผู้สนใจเข้ามาเสนอขายกิจการ โดยจะเน้นด้านธุรกิจอาหารรูปแบบที่แตกต่างจากธุรกิจหลัก และเน้นในแถบอาเซียน

“การทำ M&A ในต่างประเทศเราก็สนใจหากมีผู้สนใจเสนอขายกิจการ ในอดีตก็เคยมีเข้ามาคุยแต่ก็ยังได้ข้อเสนอที่ดี แต่ถ้ามีเข้ามาอีกเราก็พร้อมที่จะเจรจา เราสนใจธุรกิจในด้านอาหารในไลน์ที่แตกต่างจากธุรกิจหลักและจะเน้นในอาเซียนก่อน เราเองก็มีศักยภาพในการบริหารจัดการที่ดี เวลาลาเข้าไป Take แล้วเราก็นำทีมเราเข้าไปทำงานได้และมีทีมเสริมเข้ามาช่วยนิดหน่อย แต่ถ้ามีการ M&A จะทำให้รายได้ของบริษัทเราโตมากกว่า 10% แน่นอน"นายฤทธิ์ กล่าว

ส่วนสาขาในประเทศปีนี้จะเปิดสาขาสุกี้เอ็มเคอีก 40 สาขา และร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ 25 สาขา โดยใช้งบลงทุนสาขาละ 8-10 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีร้านเอ็มเคสุกี้ทั้งหมด 366 สาขา ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ 101 สาขา

สำหรับรายได้ในปี 56 บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าการเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.31 หมื่นล้านบาท แม้เศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวลง แต่บริษัทเป็นธุรกิจอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็นในการบริโภคเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้คาดว่าทรงตัวอยู่ที่ระดับ 66-67%

“เรื่องเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวก็มีผลกระทบนิดหน่อย แต่เราขายของกินก็ไม่กระทยบมาก และยังมีฐานลูกค้าเก่าอยู่มาก และก็ยังมีคนรุ่นใหม่อีกมากที่ยังไม่เคยมากินสุกี้เอ็มเค ก็เป็นโอกาสที่เราจะเติบโตได้อีก ซึ่งก็เป็นไปตามเป้า แต่อัตรากำไรขั้นต้นก็ยังทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าเช่าก็สูงขึ้น ซึ่งเราก็ได้มีการปรับราคาขายขึ้นตาม 3-5% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนได้"นายฤทธิ์ กล่าว

นายฤทธิ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่หลังจากการสิ้นสุดระยะในการห้ามขายหุ้น (Silent Period)ว่า ยืนยันว่าไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกอย่างแน่นอน และผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนใหญ่ถือลงทุนระยะยาว ส่วนการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 25% นั้น ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็น แต่หากอนาคตเกิดปัญหาสภาพคล่องของหุ้นจริงก็จะหาวิธีเพิ่มภายหลัง

“เรื่องที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกหลังจากสิ้นสุด Silent Period ผมยืนยันว่าไม่มีใครขายหุ้นออก ตามกระแสข่าว ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในครอบครัว และเป็นการถือหุ้นในระยะยาวมากกว่า ส่วนการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นตอนนี้ก็ยังไม่จำเป็น แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตเราก็คงต้องหาวิธีแก้ไข"นายฤทธิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ