IVL เผยบ.ย่อยเข้าซื้อหุ้น 51%ในบริษัทผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์-PETที่ตุรกี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 10, 2014 09:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า IVL เข้าซื้อกิจการในสัดส่วนร้อยละ 51 ในบริษัท SASA Polyester Sanayi A.Ş (SASA) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์และ PET ชั้นนำในประเทศตุรกีจากบริษัท HacıÖmerSabancı Holding A.Ş. (Sabancı Holding)โดยผ่านบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100Indorama Netherlands B.V. (IBV)

บริษัท SASA เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูล และอินโดรามา เวนเจอร์ส จะดำเนินการยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับหุ้นส่วนที่เหลือในบริษัท SASA อีกร้อยละ 49 ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนของประเทศตุรกี

บริษัท SASA มีสายการผลิตวัตถุดิบและโพลีเมอร์แบบครบวงจร โดยมีการผลิตสารตั้งต้นประเภทไดเมทิลเทเรฟทาเลต (DMT)เส้นใยเส้นด้าย PET พอลิบิวทิลีนเทเรพแทเลต (PBT)และผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษมีกำลังการผลิตรวม600,000 ตันต่อปีเพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดตุรกีและสหภาพยุโรปด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม

“การเข้าซื้อกิจการ SASA เป็นอีกก้าวที่น่าตื่นเต้นสำหรับ อินโดรามา เวนเจอร์ส ช่วยให้เราขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัท SASA เป็นผู้ผลิตที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศตุรกี และเป็นก้าวแรกสำหรับ IVL ลในการเข้าสู่ตลาดตุรกี ช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้สามารถรองรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต ตลาดตุรกีจะช่วยเสริมศักยภาพของเราในการเติบโตยอดขายภายในประเทศและเปิดโอกาสในการจำหน่ายไปยังพื้นที่โดยรอบที่ยังไม่มีการเข้าถึงอีกด้วย" นายอาลก กล่าว

ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ใน 3 มิติ ได้แก่ การขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและยังไม่มีการเข้าถึง การรวมตัวในแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มเพื่อนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และการรวมตัวในแนวดิ่งไปยังวัตถุดิบ เช่นเดียวกับที่ SASA มีการรวมตัวไปยังวัตถุดิบที่อยู่ในบริเวณโรงงานเดียวกัน

โดยบริษัท SASA มีเทคโนโลยีและความชำนาญสูง ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อินโดรามา เวนเจอร์ส เนื่องจาก SASA เป็นบริษัทที่ให้บริการลูกค้าในกว่า 54 ประเทศทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายกว่า 150 ชนิด นอกจากนี้ตุรกีเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่เชื่อมโยงระหว่างยุโรป แอฟริกาเหนือ เอเชียกลางและตะวันออกกลาง ทำให้มีศักยภาพในการเติบโตทั้งตลาดภายในและตลาดต่างประเทศโดยรอบรวมทั้งยุโรป ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศตุรกีเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ส่งออกไปยังตลาดหลักในยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ