“บริษัทมีความพร้อมในทุกๆด้านแล้วที่จะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นไป ขณะเดียวกันเรายังมีงานในมืออีกจำนวนมาก และยังเดินหน้าหางานใหม่ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ให้มากยิ่งขึ้นซึ่งจะส่งผลให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน"นายวิรัตน์ กล่าว
บมจ.ซีซีเอ็น-เทค (CCN) ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ ธุรกิจจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology System Integration : IT-SI) ซึ่งครอบคลุมการบริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง อบรม ดูแลบำรุงรักษาระบบงาน จัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบเบ็ดเสร็จ และธุรกิจให้เช่าเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์ (Printer and Computer Rental Services) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรให้ได้หลากหลายมากขึ้น
ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียน 115 ล้านบาท และทุนเรียกชำระแล้ว 85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 170 ล้านหุ้น โดยหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 115 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 230 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมาในปี 2554 มีรายได้รวมอยู่ที่ 207.50 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 9.62 ล้านบาท ในปี 2555 มีรายได้รวมอยู่ที่ 225.69 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 14.13 ล้านบาท และในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 218.65 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ15.56 ล้านบาท นายวิรัตน์ กล่าวว่า บริษัทมีจุดเด่นทางด้านคุณภาพของสินค้าที่มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากลูกค้า และด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 20 ปี ทำให้ทีมวิศวกรของบริษัทมีความเชี่ยวชาญและชำนาญเป็นอย่างมากจึงทำให้ผลงานของบริษัทเป็นที่พึงพอใจของลูกค้าอย่างยิ่ง นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวสู่ความเป็นบริษัทชั้นนำด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) แบบครบวงจร และพัฒนานวัตกรรม สินค้ารวมถึงการบริการให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ด้านนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า “ซีซีเอ็น-เทค" ถือเป็นบริษัทหนึ่งที่มีคุณภาพ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้จะช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นเสริมศักยภาพทางธุรกิจ และขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
"ซีซีเอ็น-เทค ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกมาก ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจต่างๆ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข่งขันสูงขึ้น ทำให้มีความต้องการนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ามาช่วยเสริมพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ จากจุดเด่นดังกล่าวทำให้เชื่อว่าเมื่อหุ้น "ซีซีเอ็น-เทค"เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการลงทุน และในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ภายในไตรมาส 3/57" นายชูพงศ์ กล่าว