SRICHA คาดรายได้ปี 57 ทะลุเป้า หลัง backlog สูงกว่า 2.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 15, 2014 10:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา โพธิสมภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถสร้างผลงานได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้ตอนต้นปี และยังคงนโยบายจ่ายปันผลสูงเช่นเดิม ซึ่งคาดว่าสูงที่สุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยบริษัทมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง เป็น Net Cash ไม่มีภาระ หนี้สิน

บริษัทยังคงนโยบายเลือกรับเฉพาะงานก่อสร้างเครื่องกลของภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่เน้นความชำนาญโดยเฉพาะงานก่อสร้างงานโลหะทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ขณะนี้มีงานโครงการทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางหลายแห่งที่เตรียมเสนอราคารวมมูลค่างานที่จะเสนอราคากว่าหลายพันล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นโครงการของกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทมาตลอด 20 ปี โดยเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน ญี่ปุ่น และแคนาดา โดยเป็นงานในประเทศออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง

ปัจจุบัน SRICHA มีมูลค่าปริมาณงานในมือสูงกว่า 2,200 ล้านบาทคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้และปีหน้า ได้แก่ งาน Mechanical & Piping Construction ของโครงการ NGLN-Package (ISBL) กับ บมจ.ไทยออยล์ งานก่อสร้างของบริษัทฮุนได เอ็นจิเนียริ่ง จากประเทศเกาหลี และงานซ่อมบำรุงและดูแลรักษา(Maintenance)เครื่องจักรในโครงการ Ambatovy ซึ่งเป็นโรงงานถลุงเหมืองแร่ที่ประเทศมาดากัสการ์ รวมทั้งงานใหม่ การประกอบ โครงสร้างเหล็กประเภท Module ซึ่งกำลังเตรียมดำเนินการอยู่ ซึ่งทุกงานทุกโครงการ เป็นการรับงานแบบสัญญาเปิด บริษัทสามารถเพิ่มการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในช่วงเริ่มต้นเสมอ

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้รวม 1,364 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 418.5 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ (เน็ตมาร์จิ้น) สูงถึง 31 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงที่สุด แห่งหนึ่งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง มีกำไรต่อหุ้น (EPS) 1.37 บาทต่อหุ้นในงวด 6 เดือน และบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็น 72% ของกำไรสุทธิงวดครึ่งปีโดยคิด เป็นผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาล 2.9 เปอร์เซ็นต์ (คำนวณจากราคาปิด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 57) โดยจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อรับสิทธิปันผลในวันที่ วันที่ 29 สิงหาคม 2557 นี้ และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 57

ในไตรมาส 2/57 บริษัทฯ มีรายได้รวม 784 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 291.13 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิหรือเน็ตมาร์จิ้นเท่ากับ 37 เปอร์เซ็นต์ และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) 94 สตางค์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลประกอบการที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 56 ถึง 81% ซึ่งมีรายได้รวม 582 ล้าน บาท และกำไรสุทธิ จำนวน 161 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ