ตลาดหุ้นลาว เล็งเพิ่ม 2 บจ.ใหม่ปีหน้า ตั้งเป้า 100 แห่งปี 63,เข็นเกณฑ์ dual trading

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 8, 2014 12:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเดดพูวัง มูลรัตน์ ประธานคณะและหัวหน้าใหญ่ผู้บริหาร ตลาดหลักทรัพย์ลาว(LSX)กล่าวในการสัมมนา "ทิศทางตลาด LSXและหุ้น IPO ในสปป.ลาว"ว่า ในปี 58 จะมีบริษัทเอกชนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของลาวอีก 2 บริษัท จากล่าสุดในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนใหม่ คือ บริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน(PTL)ที่จะเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่มวลชนทั่วไป(IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ซึ่งจะเริ่มเปิดทำการซื้อขายในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ LSX คาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของตลาดหุ้นลาวในปี 58 จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันมีอยู่ 1,000 ล้านเหรียฐสหรัฐ และมีทุนจดทะเบียนรวมกันอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนั้น LSX ตั้งเป้าหมายปี 63 จะมีบริษัทลาวเข้าจดทะเบียนเพิ่มเป็น 100 บริษัท ซึ่งจะช่วยผลักดันมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) ของภาพรมตลาดหุ้นลาวเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าจากนี้ หรือเพิ่มเป็นประมาณ 180 ล้านบาทต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 18 ล้านบาทต่อวัน พร้อมกันนั้น LSX ยังอยู่ระหว่างร่างกฎหมายการจดทะเบียนใน 2 ตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าปีหน้าจะมีความชัดเจนได้

อนึ่ง ปัจจุบัน LSX มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ 3 บริษัท ได้แก่ ธนาคารการค้าต่างประเทศ ลาว (BCEL),บริษัท ลาวเวิน มหาชน (LWPC Lao World Public Company) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL- GEN) และมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน 4 แห่ง

ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมนเนจเม้นท์ จำกัด และ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์เอพีเอ็ม ลาว กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี(58-63)จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน LSX ราว 15 บริษัท จากปี 58 ที่คาดว่าจะผลักดัน 2 บริษัท คือ บริษัท สุวันนี การค้า ดำเนินธุรกิจวัสุดก่อสร้าง และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์

ส่วนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในรูปแบบ dual trading ที่จะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ทั้งตลาดหุ้นไทยและลาว หากกฎเกณฑ์ของทางลาวมีความชัดเจนได้ในปีหน้า ทางเอพีเอ็มลาวก็จะเสนอเข้าจดทะเบียนเข้าจดทะเบียนในลักษณะดังกล่าวอย่างน้อย 1 บริษัท คือ บริษัท สุวันนี การค้า ซึ่งปัจจุบันมี 3 สาขา และมียอดขายหลักพันล้านบาท เนื่องจากมีความต้องการระดมทุนเพื่อเปิดสาขาอีก 10 แห่ง

"ตลาดหลักทรัพย์ลาวถือว่ามีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากมี P/E เพียง 9-10 เท่า ให้ผลตอบแทนเงินปันผล (Divedend Yield) 8-10%"นายสมภพ กล่าว

ขณะที่งานการเป็นที่ปรึกาทางการเงินในประเทศนั้น ในปีหน้าจะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยราว 7 บริษัท

นายสมภพ มองว่า การเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของนักลงทุนไทยในอนาคตน่าจะมีการขยับขยายมากขึ้น โดยขณะนี้ทาง LSX ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบซื้อขายหุ้นจากการโทรสั่งซื้อ เป็นระบบ continues auction trending ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 30-40 ล้านบาท/วัน จากเดิมที่มีเพียง 1 ล้านบาท/วัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

"สิ่งที่เราจะต้องทำความเข้าใจคือกฎหมาย ระเบียบต่างๆ และการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สปป.ลาว จะต้องมีทุนจดทะเบียนประมาณ 40 ล้านบาท มียอดรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท แตกต่างจากประเทศไทยที่จะต้องมีทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งในไทยไม่ได้กำหนดยอดรายได้ เราจึงต้องดูประเด็นอื่นๆแทน"นายสมภพ กล่าว

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.ได้ร่วมมือพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ลาวมาตั้งแต่ปี 52 ซึ่งนักลงทุนไทยมีศักยภาพที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นลาว และยิ่งหาก LSX ร่างกฎหมายจดทะเบียน 2 ตลาดแล้วเสร็จ ก็จะทำให้นักลงทุนไทยมีความสะดวกในการเข้าไปซื้อขายในหุ้นลาวมากขึ้น เนื่องด้วยประเทศไทยมีฐานนักลงทุนที่มีศักยภาพ และจะเป็นประโยชน์ทั้งตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นลาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ