ปี 58 ยอมรับว่ารายได้รวมอาจไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 1.8 แสนล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่ปรับเป้ารายได้ลง แต่จะพยายามทำให้ได้ก่อน เนื่องจากครึ่งแรกทำได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังรายได้จะเพิ่มขึ้นจากที่เป็นฤดูกาล การขยายเส้นทางบินในจีนอีก 3 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาต การปรับการขายตั๋วเป็นขายให้กับลูกค้ากลุ่มคอร์ปอเรท กลุ่มบิสซิเนสมากขึ้น จะทำให้มี yield มากขึ้น
"เป้ารายได้ปีนี้ยังอยากจะเห็น 1.8 แสนล้านบาทอยู่ แต่ไม่น่าจะได้ เพราะสิ่งที่หายไปในครึ่งแรกคงเอากลับมาไม่ได้คือในส่วนของฝั่งขายตั๋ว แต่เชื่อว่าฝั่งอื่นๆ เช่น คาร์โก้ ครัวบินไทย น่าจะได้ แต่ครึ่งปีหลังฝั่งขายตั๋วจะโฟกัสไปที่บิสเนสคอร์ปอเรทมากกว่าที่จะเน้นทัวร์ เพื่อทำราคาตั๋วได้มากขึ้น และจากนี้ไป เข้าไฮซีซั่นส์ ผลประกอบการไม่น่าจะเป็นลบ ทั้งปี 58 คงไม่ขาดทุนจากการดำเนินงานแล้ว น่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน"นายจรัมพร กล่าว
ปี 58 คาดอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin factor) อยู่ที่ 76% จากครึ่งแรกที่ 69.2% แต่พอเดือนส.ค.ขยับขึ้นมาที่ 85% แล้ว และคาดหวังว่าอีก 4 เดือนที่เหลือจะอยู่ที่ระดับ 85% ก็จะทำให้เฉลี่ยทั้งปีที่ 76% สูงกว่าปีก่อน 7%
ในส่วนของการปรับลดค่าใช้จ่ายตามแผนทั้งปีจะลด 10% แต่ครึ่งแรกแทบจะลดไม่ได้เลย ซึ่งเชื่อว่าครึ่งหลังจะลดให้ได้ เช่น หลังจากยกเลิกเที่ยวบินในบางประเทศไปก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นค่าเช่าสำนักงานขายตั๋ว ไม่มีค่าที่พักพนักงาน ค่าใช้ส่วนนี้ก็หายไป
แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าบริษัทฯจะยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/58 ที่ขาดทุน 3.7 พันล้านบาท เนื่องจากครึ่งหลังแนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่า และหลายสำนักคาดการณ์ที่ 36 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทมีหนี้สกลุลดอลลาร์ และยูโร อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของบริษัท
สิ้นปีคาดจะมีฝูงบินที่ 91 ลำ จากเดิมคาดที่ 89 ลำ เนื่องจากเลื่อนปลดระวางโบอิ้ง 747 ไปต้นปี 59 จำนวน 2 ลำ จากการเลื่อนระยะเวลาการยกเลิกเส้นทางบิน กรุงเทพฯ - โรม ออกไปเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 59 ทั้งนี้ทำให้การขายเครื่องบินออกในปีนี้เหลือ 36 ลำ จากครึ่งแรกขายไปแล้ว 17 ลำ ที่เหลืออีก 19 ลำก็คาดว่าจะขายได้ทั้งหมดเพราะดีมานด์ยังมีอยู่
ในไตรมาส 3/58 บริษัทมีแผนออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนทั้งปีจะออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยครึ่งแรกออกหุ้นกู้ไปแล้ว 7,000 ล้านบาท
ด้านนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี THAI กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ครั้งหน้า ราวปลายเดือนส.ค.หรือต้น ก.ย.จะเสนอวาระการพิจารณาซื้อหรือขายสินทรัพย์ที่บริษัทลงทุนอยู่ทั้งในและต่างประเทศ รวมมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมถึงการพิจารณาถือหุ้นใน บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) เพิ่มเติมหรือไม่ และสินทรัพย์ที่บริษัทลงทุนอยู่ทั้งอาคารสำนักงาน ที่พักพนักงาน ทั้งในและต่างประเทศ
ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน โดยปัจจุบันบริษัทมี D/E ที่ 5.9 เท่า ยังไม่สูงมาก เพราะบางบริษัทอยู่ที่ 6 เท่า ซึ่งสถาบันการเงินพร้อมจะให้กู้อยู่แล้วจึงยังไม่คิดจะเพิ่มทุน