CIMBT ผนึกบล.ซีไอเอ็มบีฯชวนนลท.เปิดบัญชี"ออมหุ้น"เพียง 5,000 บ./เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 24, 2015 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นธนาคารแรกที่เริ่มให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเปิดบัญชีออมหุ้นได้ผ่านสาขาของธนาคารทั่วประเทศ โดยการผนึกกำลังกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เสนอโครงการออมหุ้น ‘Easy Wealth Builder’ เหมาะกับผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การลงทุนในหุ้นมาก่อน ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเดือนละ 5,000 บาท ก็สามารถลงทุนในหุ้นได้แล้ว

ในภาวะดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่ำ ถ้าวันนี้ไม่ให้เงินทำงาน แต่ปล่อยไว้ในบัญชีเงินฝากความเสี่ยงต่ำเพียงอย่างเดียว โอกาสในการได้ผลตอบแทนจะหายไปอย่างมหาศาล แต่หากแบ่งเงินออมบางส่วนมาลงทุนในหุ้นผ่านบัญชีออมหุ้นหรือ Easy Wealth Builder โดย เลือกหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ ซึ่งการลงทุนผ่านบัญชีออมหุ้น เป็นการสร้างวินัยทางการลงทุนให้เน้นการลงทุนที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เช่น เมื่อราคาหุ้นตกต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นนักลงทุนส่วนใหญ่ หรือนักลงทุนหน้าใหม่ อาจกลัวที่จะเข้าซื้อทำให้พลาดโอกาสในการได้หุ้นราคาถูก แต่ในระยะยาวราคาหุ้นจะสะท้อนกำไรของผลประกอบการของหุ้นนั้น ซึ่งวิธีนี้นักลงทุนจะได้เรียนรู้ด้วยว่าราคาหุ้นจะผันผวนตามข่าวระยะสั้น แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นหากหุ้นนั้นมีพื้นฐานและผลประกอบการที่แข็งแกร่งในระยะยาว ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีด้านการลงทุนได้ ที่น่าจับตาคือ การที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากทยอยลดวงเงินคุ้มครองลง จะเพิ่มความน่าสนใจของการออมหุ้น และเป็นโอกาสดีที่จะดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น แต่ควรเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป"นายอดิศร กล่าว

โครงการออมหุ้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคาร ในการเป็นผู้นำเรื่องการให้บริการด้านการลงทุน หัวใจคือ เป็นที่ปรึกษาที่เข้าใจตลาด เข้าใจลูกค้า และสรรหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบความต้องการลูกค้าได้ และเมื่อแบงก์ผสานพลังกับบล.ซีไอเอ็มบี นำเสนอทางเลือกให้ลูกค้าเริ่มต้นลงทุนในหุ้นได้อย่างง่ายๆ และได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ด้วยการออมหุ้น โดยเฉพาะเมื่อ AEC เกิดขึ้น ต่อไปเรื่องการลงทุนในภูมิภาคจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และบล.ซีไอเอ็มบีมีจุดแข็งเรื่องความเข้าใจตลาดการลงทุนทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน

บัญชีออมหุ้นหรือ Easy Wealth Builder ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2556 ลูกค้าได้มาเปิดบัญชีออมหุ้นผ่านธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยจำนวน 198 บัญชี มาในปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 537 บัญชี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการเปิดบัญชีออมหุ้นผ่านทางช่องทางของธนาคารเท่านั้น ยังไม่รวมช่องทางอื่นๆ ของบล. ซีไอเอ็มบี

นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า โครงการออมหุ้นกับ "Easy Wealth Builder" เป็นการลงทุนโดยใช้หลักการเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar Cost Averaging (DCA) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์การลงทุนในหุ้นมาก่อน และยังเหมาะกับกลุ่มคนทำงาน บุคคลทั่วไป ที่ต้องทำงานประจำและไม่ค่อยมีเวลาว่าง และไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอหุ้นทุกวัน

ภาพพจน์ของตลาดหุ้นในสายตาคนทั่วไปคือเสี่ยงสูงและน่ากลัว นักลงทุนหน้าใหม่หลายคนเข้ามาไม่ถูกวิธีและเน้นเก็งกำไร โครงการออมหุ้นจึงออกแบบมาเพื่อนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาเรียนรู้และลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป จากสถิติที่ทำออมหุ้นมา 10 ปีตั้งแต่บล.ซิกโก้ พบว่า เกินกว่า 90% ของคนออมหุ้นนั้นทำกำไร จากการเลือกหุ้นพื้นฐานดี คือหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโต สร้างรายได้ให้บริษัทได้อย่างคงที่และคาดหมายได้ จากการวาดกราฟในอดีต หุ้นบลูชิพแม้บางช่วงราคาปรับตัวลงไป แต่ในที่สุดจะปรับตัวกลับขึ้นมา และในระยะ 10-15 ปี หุ้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ การที่เราซื้อด้วยเงินที่ใกล้เคียงกันทุกๆเดือน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เวลาหุ้นแพง เราจะซื้อได้น้อยลง เวลาหุ้นถูก เราจะซื้อได้มากขึ้นด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ผมแนะนำสำหรับคนรับความเสี่ยงได้น้อยอาจลงทุน 5-10% ของเงินเก็บ คนรับความเสี่ยงได้มาก อยากได้ผลตอบแทนสูงอาจแบ่งมาออมหุ้น 20-25%" นายสุชาย กล่าว

ทั้งนี้ โครงการออมหุ้นกับ "Easy Wealth Builder" จะคัดสรรหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมาให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุน สำหรับขั้นตอนง่ายๆในการออมหุ้น เริ่มจาก เลือกหุ้นจากกลุ่ม SET50, TDEX, ENGY หลังจากนั้น เลือกวันลงทุน จากวันที่กำหนดให้ 3 วัน คือ 5, 15 และ 25 โดยผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด และเลือกจำนวนเงินลงทุน ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป (โดยเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณของ 1,000 บาท)

อนึ่ง แม้ไม่มีข้อกำหนดว่าลูกค้าต้องลงทุนทุกเดือน และไม่ได้กำหนดว่าต้องลงทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลาเท่าใด แต่เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนดีที่สุดตามหลักการเฉลี่ยต้นทุนนั้น บล.ซีไอเอ็มบี จะแนะนำและเน้นย้ำนักลงทุนให้ลงทุนเป็นประจำสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวด เพราะจะช่วยต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นที่ถูกลง และถ้าลงทุนระยะยาวโอกาสในการขาดทุนก็จะลดลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังขจัดปัญหาในการพยายามเอาชนะตลาดลงได้ กล่าวคือผู้ลงทุนไม่ต้องวุ่นวายกับการหาจังหวะซื้อ (Market Timing) เพียงเน้นวินัยและการออมในการลงทุน

สำหรับการซื้อหลักทรัพย์ผ่านโครงการออมหุ้น จะทำการซื้อเดือนละ 1 ครั้ง และสามารถขายหุ้นได้ทุกวันทำการ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินลงทุน หลักทรัพย์ที่ลงทุน และวันที่ลงทุนได้ อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการชำระเงินลงทุนผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติ(ATS)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ