นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ระบุว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตัวของการบริโภคในระยะยาว เช่น ประเทศรัสเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินเดีย โดยเชื่อมั่นว่าจะส่งผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสมกลับมาให้บริษัทในอนาคต โดยการเข้าซื้อกิจการถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักของการขยายธุรกิจ หากกิจการนั้นอยู่ในแนวกลยุทธ์หลักและราคาเข้าซื้อมีมูลค่าเหมาะสม
"การเข้าซื้อกิจการก็เหมือนการขยายธุรกิจด้วยตัวเราเองเพียงแต่หากเราเข้าซื้อธุรกิจที่ถูกต้อง บริษัทก็จะได้มาซึ่งบุคลากรที่พร้อมบริหารธุรกิจต่อเนื่องและบริษัทจะได้ผลการดำเนินงานเข้ามาในงบการเงินทันที"นายอดิเรก กล่าว
บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 58 ด้วยยอดขาย 111,877 ล้านบาทซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับยอดขายของปีที่ผ่านมาเป็นยอดขายจากต่างประเทศ 67% (กิจการในต่างประเทศและส่งออก6%) และจากการขายในประเทศไทย 33%
นายอดิเรก กล่าวว่า จากผลกระทบของภาะวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยที่ไม่ค่อยสดใสนักทำให้ยอดขายอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาสที่ 3 ดีขึ้น จาก 14.3% ในปี 2557 เป็น 15.0% ในปี 2558 จากธุรกิจสัตว์น้ำที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นเป็นลำดับจากวิกฤตโรค EMS ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา
"ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสัตว์น้ำปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินธุรกิจบริษัทคาดว่าธุรกิจสัตว์น้ำน่าจะกลับมาสร้างกำไรให้กับบริษัทได้ในปีหน้านี้"นายอดิเรก กล่าว